น้ำตาเทียม (artificial tears) เป็นเภสัชภัณฑ์หรือยาหยอดตารูปแบบหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหรือหล่อลื่นแก่ดวงตา และอาจใช้ทดแทนน้ำตาตามธรรมชาติได้ น้ำตาเทียมช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองดวงตา อาการตาแห้ง รวมทั้งสามารถนำมาใช้เป็นสารหล่อลื่นดวงตาเมื่อมีการใช้คอนแทคเลนส์ หรือใช้ทดแทนน้ำตาตามธรรมชาติหลังการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
ทั้งนี้คนทั่วไปอาจสับสนระหว่างน้ำตาเทียมกับยาหยอดตา แต่แท้จริงแล้ว “น้ำตาเทียม” เปรียบเสมือนเป็นสารหล่อลื่นของดวงตาที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับน้ำตาตามธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาและลดการระคายเคือง รวมทั้งสามารถเลือกซื้อได้ด้วยตัวเองตามร้านยาทั่วไป ในขณะที่ “ยาหยอดตา” จะมีส่วนประกอบของตัวยาเพื่อใช้รักษาอาการของโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดวงตา เช่น ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ใช้ลดอาการอักเสบของดวงตา ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ใช้รักษาภูมิแพ้เยื่อบุตาหรือลดอาการตาแดง ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียของดวงตา เป็นต้น โดยยาหยอดตานั้นต้องใช้อย่างถูกวิธี มีระยะเวลาการใช้ที่เหมาะสม ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
น้ำตาเทียมมีประโยชน์อย่างมากในผู้ที่มีภาวะน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตาแห้ง ภาวะนี้มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุที่มีการทำงานของต่อมน้ำตาลดลง โดยพบมากในหญิงสูงอายุที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนและทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะตาแห้งง่ายกว่าคนทั่วไป สำหรับกลุ่มคนอื่น ๆ ที่มักมีปัญหาตาแห้ง ได้แก่ ผู้ที่ทำงานอยู่กลางแจ้ง สัมผัสกับลมโดยตรง หรือมีการทำงานในอากาศที่ร้อนและแห้ง ซึ่งสภาวะเหล่านี้ล้วนส่งผลให้น้ำหล่อเลี้ยงในลูกตาระเหยออกไปมากกว่าปกติ นอกจากนี้ในปัจจุบันการใช้เวลาทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทั้งในเรื่องของระยะเวลาและความถี่ที่ต้องใช้ดวงตาเพ่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจอของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในการทำงานตามปกติ เรียนออนไลน์ ตลอดจนการทำงานที่บ้าน (work from home) ก็ทำให้ประสบปัญหากับอาการตาแห้งเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ส่วนประกอบของน้ำตาเทียมจะระบุไว้ที่ข้างกล่องบรรจุภัณฑ์หรือที่ฉลากข้างขวด โดยสารออกฤทธิ์หลักประกอบไปด้วยสารช่วยหล่อลื่นดวงตา (lubricants) เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ทั้งนี้น้ำตาเทียมบางประเภทจะมีส่วนประกอบของสารกันเสีย (preservative) ที่ช่วยให้ยาสามารถคงสภาพได้นานตลอดการใช้งาน และเพื่อป้องกันการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่อาจปนเปื้อน โดยสารช่วยหล่อลื่นดวงตาและสารกันเสียแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังแสดงตัวอย่างในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ตัวอย่างสารช่วยหล่อลื่นดวงตาและสารกันเสียในน้ำตาเทียม
ส่วนประกอบ |
สารตัวอย่าง |
คุณสมบัติ |
สารหล่อลื่น(lubricants)[1,3-5] |
Carboxymethylcellulose sodium (Carmellose®) |
เพิ่มความหนืด กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ยึดเกาะกับผิวกระจกตาได้นาน |
Hydroxypropyl methylcellulose (Hypromellose®) |
เพิ่มความหนืด กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ยึดเกาะกับผิวกระจกตาได้นาน เพิ่มความหนาของฟิล์มน้ำตา |
|
Sodium hyaluronate |
เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยสมานแผล ซ่อมแซมผิวกระจกตา |
|
Glycerin |
เพิ่มความหนืด กักเก็บความชุ่มชื้น ลดการระเหยของน้ำตา ไม่ต้องหยอดบ่อย |
|
Polyethylene glycol |
เพิ่มความหนืด กักเก็บความชุ่มชื้น ยึดเกาะกับผิวกระจกตาได้นาน |
|
สารกันเสีย (preservative)[1,5] |
Benzalkonium chloride |
ฆ่าเชื้อได้ดี แต่อาจทำลายเซลล์ผิวของกระจกตาและทำให้ฟิล์มน้ำตาแตกตัวได้มาก ไม่ควรใช้ในผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ หรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เป็นระยะเวลานาน |
Stabilized oxychloro complex (Purite®) |
ฆ่าเชื้อได้ดี เมื่อสัมผัสแสงแดดจะสลายกลายเป็นน้ำและเกลือซึ่งปลอดภัยต่อกระจกตา |
|
Sodium perborate |
ฆ่าเชื้อได้ดี เมื่อหยอดยาจะสลายกลายตัวเป็นน้ำและออกซิเจนซึ่งปลอดภัยต่อกระจกตา |
น้ำตาเทียมที่มีวางขายตามท้องตลาดในปัจจุบันมีให้เลือกใช้หลากหลายแบบ ซึ่งจะสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานตามรูปแบบของเภสัชภัณฑ์ ได้แก่ ชนิดเจลขี้ผึ้ง (ointment) ซึ่งเป็นน้ำตาเทียมที่มีความหนืดมาก ระเหยค่อนข้างช้า ทำให้สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้นาน เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาตาแห้งในระดับปานกลางถึงรุนแรง แต่ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวก็อาจทำให้ตาพร่ามัวได้ จึงแนะนำให้ใช้ก่อนนอน และไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ที่มีการสวมใส่คอนแทคเลนส์ อีกประเภท คือ ชนิดสารละลาย (solution) ซึ่งเป็นน้ำตาเทียมที่อยู่ในรูปของสารละลายใสไม่มีสี มีความหนืดน้อย ทำให้ใช้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำให้ตาพร่ามัว แต่ก็อาจต้องหยอดตาบ่อยในระหว่างวัน
ทั้งนี้น้ำตาเทียมยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามรูปแบบการใช้งานตามบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ 1) น้ำตาเทียมแบบรายเดือน (multiple-dose) และ 2) น้ำตาเทียมแบบรายวัน (single-dose) โดยรูปแบบการใช้งานตามบรรจุภัณฑ์ของน้ำตาเทียมนั้น มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของคุณสมบัติและการใช้งาน ดังที่แสดงในตารางที่ 2
ตารางที่ 2 ชนิดของน้ำตาเทียมตามรูปแบบการใช้งานตามบรรจุภัณฑ์
น้ำตาเทียมแบบรายเดือน (multiple-dose) |
น้ำตาเทียมแบบรายวัน (single-dose) |
น้ำตาเทียมชนิดนี้จะบรรจุอยู่ในขวด สามารถเปิดใช้ได้หลายครั้ง แต่ใช้งานได้ประมาณ 30 วันหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเพียงเล็กน้อย และเนื่องจากน้ำตาเทียมชนิดนี้มีสารกันเสียผสม จึงไม่ควรใช้ในผู้ที่แพ้สารกันเสียหรือใช้คอนแทคเลนส์ ราคาค่อนข้างย่อมเยา |
น้ำตาเทียมชนิดนี้บรรจุอยู่ในกระเปาะขนาดเล็ก แต่ละกระเปาะควรเปิดใช้ให้หมดแบบวันต่อวัน นั่นคือประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก เนื่องจากน้ำตาเทียมชนิดนี้ปราศจากสารกันเสีย จึงเหมาะแก่ผู้ที่แพ้สารกันเสีย หรือผู้ที่จำเป็นต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ราคาค่อนข้างสูง |
ถึงแม้น้ำตาเทียมจะค่อนข้างมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด จึงควรปฏิบัติตามข้อควรระวังและข้อแนะนำในการใช้งานทั่วไป ดังนี้
- ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนใช้
- ไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น
- เก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องและเก็บในที่แห้ง
- ระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสกับดวงตาขณะหยอด
- หากใส่คอนแทคเลนส์อยู่ ให้ถอดออกก่อนใช้ทุกครั้ง แล้วค่อยใส่กลับเข้าไปใหม่หลังจากหยอดประมาณ 10 นาที
- หลังเปิดใช้ครั้งแรก น้ำตาเทียมแบบรายเดือนมีอายุการใช้งาน 30 วัน ไม่ควรใช้ต่อหากยังคงมีน้ำตาเทียมเหลืออยู่ในขวด
- หลังเปิดใช้ครั้งแรก น้ำตาเทียมแบบรายวันมีอายุการใช้งาน 24 วัน ไม่ควรใช้ต่อหากยังคงมีน้ำตาเทียมเหลืออยู่ในกระเปาะ
- อาจทำให้มีอาการตาพร่า แสบตา หรือระคายเคืองตาได้บ้างหลังใช้ ดังนั้นจึงไม่ควรขับรถหรือทำงานที่เสี่ยงต่ออันตรายจนกว่าดวงตาจะมองเห็นได้ชัดเจนตามปกติ
- อาจรู้สึกขมในคอหลังใช้ สามารถลดการเกิดอาการดังกล่าวโดยใช้นิ้วมือกดหัวตาเบา ๆ เป็นเวลา 5 นาที หลังหยอด
- หากเกิดอาการแพ้หรืออาการผิดปกติ เช่น มีการระคายเคืองที่ผิดปกติ ตาพร่ามัวจนมองเห็นผิดปกติแม้เวลาผ่านไปสักพักแล้ว แสบตา ปวดตา ให้หยุดใช้ทันที หากหยุดใช้แล้วยังคงมีอาการให้รีบไปพบแพทย์
การเลือกใช้งานน้ำตาเทียมควรพิจารณาให้เหมาะสมกับความสะดวก ระยะเวลาในการใช้ และเหมาะกับระดับความรุนแรงของอาการ โดยดูจากคุณสมบัติของส่วนประกอบหลักในน้ำตาเทียมอย่างเช่นสารหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน แม้ว่าในปัจจุบันจะสามารถหาซื้อน้ำตาเทียมได้ทั่วไป แต่ประสิทธิผลของการใช้งานย่อมต้องมาคู่กับความปลอดภัย ดังนั้นควรเลือกใช้น้ำตาเทียมภายใต้ข้อควรระวังและคำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานน้ำตาเทียมสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้สูงสุด