Tretinoin เป็นชื่อสามัญของอนุพันธ์วิตามินเอ (เรตินอล) ที่มีใช้ทั้งโดยการรับประทานและเป็นยาภายนอก สำหรับ tretinoin ชนิดทาภายนอกมีทั้งที่ผลิตในรูปแบบเจลและครีมใช้ในการรักษาสิวชนิดโคมีโดน (comedonal acne) สิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน และสิวอักเสบ1 อย่างไรก็ตามการรักษาสิวด้วยยาทา tretinoin ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวกับการระคายเคืองผิวหนังบริเวณใบหน้าได้บ่อย ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากการใช้ยาปริมาณมากเกินไป หรือใช้บ่อยครั้งกว่าที่แนะนำ2 ดังนั้นการใช้ยาทา tretinoin อย่างถูกวิธีจึงมีความสำคัญ เพื่อให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากการใช้ยา
ยาทา tretinoin มีประโยชน์อย่างไร
ยาทา tretinoin ใช้สำหรับรักษาสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยอาจใช้เสริมกับยารักษาสิวชนิดอื่น เช่น benzoyl peroxide ยาฆ่าเชื้อชนิดทาภายนอกหรือรับประทาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสิว3 โดยยาทา tretinoin เร่งการสร้างและผลัดเซลล์โดยเฉพาะที่ผนังรูขุมขนเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตาย รวมทั้งยับยั้งการหลั่งสารสื่ออักเสบเพื่อลดกระบวนการอักเสบที่ก่อให้เกิดสิว4 ซึ่งยาทา tretinoin ที่พบในประเทศไทยอยู่ในรูปแบบครีมและเจล ความเข้มข้น 0.025% และ 0.05%2
วิธีการใช้ยาทา tretinoin ที่ถูกต้อง2
ก่อนเริ่มทายา tretinoin ควรทำความสะอาดใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน จากนั้นซับหน้าให้แห้ง แล้วรอประมาณ 20-30 นาที เนื่องจากผิวที่แห้งสนิทสามารถลดอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นจากยาทา tretinoin ได้ จากนั้นจึงทายาโดยในครั้งแรกควรเริ่มใช้ที่ความเข้มข้นต่ำ (0.025%) ทั้งนี้แนะนำให้บีบยาประมาณครึ่งนิ้วหรือน้อยกว่าลงบริเวณปลายนิ้วและทายาให้ทั่วใบหน้า วันละ 1 ครั้งก่อนนอน หรือทาตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร ควรหลีกเลี่ยงการทาบริเวณรอบจมูก ปาก ตา และแผลเปิด สำหรับการรักษาด้วยยาทา tretinoin จะเห็นผลประมาณ 6 สัปดาห์ ดังนั้นจึงควรใช้ยานี้ตามที่ได้รับคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง กรณีลืมทายา สามารถเว้นการทาในครั้งนั้น แล้วทาในครั้งต่อไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาทา tretinoin เป็นสองเท่า และกรณีที่ต้องการทายา benzoyl peroxide เสริมในการรักษาสิว แนะนำให้ทายา benzoyl peroxide ในตอนเช้า และทายา tretinoin ก่อนนอน เพื่อป้องกันการระคายเคืองและผลข้างเคียงอื่นๆ
อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาทา tretinoin2,5
การใช้ยาทา tretinoin อาจทำให้เกิดอาการผิวแห้ง แสบ แดง คัน หรือระคายเคืองบริเวณผิวหนัง และมีความไวต่อแสงมากขึ้น จึงแนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นซึ่งอาจมีส่วนผสมของครีมกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันบนใบหน้าในทุกเช้าหลังทำความสะอาดใบหน้า รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด รวมถึงหลอดไฟยูวีด้วย ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แนะนำให้ทาครีมกันแดดหรือสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถปกป้องบริเวณที่ทายา tretinoin จากการสัมผัสแสงแดดได้ ทั้งนี้หลังใช้ยาอาจมีอาการของสิวที่แย่ลงในระหว่าง 7-10 วันแรก จากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายเองเมื่อใช้ยาทา tretinoin อย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการใช้ยาทา tretinoin2,5
หากใช้ยาทา tretinoin มากเกินไป อาจทำให้ใบหน้าลอก แดง หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณใบหน้า หากเกิดอาการเหล่านี้แนะนำให้หยุดใช้ยาจนกว่าอาการจะกลับมาเป็นปกติ แล้วค่อยเริ่มทายาใหม่อีกครั้ง แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแพ้ยา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาทา tretinoin ร่วมกับกรดซาลิซิลิก (salicylic acid) หรือแชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของซัลเฟอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ควรระมัดระวังการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หากจำเป็นต้องใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
บทสรุป
ยาทา tretinoin เป็นยารักษาสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และสามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวชนิดอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการใช้ยาทา tretinoin อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้มากเกินไป เพราะฉะนั้นจึงควรใช้ยาทา tretinoin อย่างถูกต้องและเหมาะสม หากใช้ยาต่อเนื่องกันแล้วอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ขึ้นไป แต่อาการของสิวไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง หรือเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนการรักษา สำหรับกรณีที่สามารถควบคุมสิวได้แล้ว แนะนำให้ใช้ยาทา tretinoin ต่อเนื่องไปอีกประมาณ 6-12 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
เอกสารอ้างอิง