หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผิวขาวกระจ่างใสด้วย NAC ???

โดย นศภ.ฐิตินันท์ เสนาะ ภายใต้คำแนะนำของ ผศ.ดร.ภก.สุรศักดิ์ วิชัยโย เผยแพร่ตั้งแต่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2568 -- 189 views
 

N-acetylcysteine หรือเรียกชื่อย่อว่า NAC นอกจากใช้เป็นยาละลายเสมหะแล้ว ยังมีประโยชน์อื่น ๆ เช่น ใช้รักษาผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือสำหรับแก้พิษจากการกินยาพาราเซตามอล (paracetamol) เกินขนาด(1) นอกจากนี้ปัจจุบันพบว่าประชาชนให้ความสนใจกันอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าการใช้ NAC จะช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส จนอาจละเลยผลเสียจากการใช้ NAC เกินความจำเป็น บทความนี้จึงขอนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว รวมทั้งข้อควรระวังในการใช้ NAC

เหตุใดจึงเชื่อว่า NAC ทำให้ผิวขาว?

ผิวคล้ำเสียเกิดจากการผลิตเม็ดสีผิว หรือเรียกว่า “เมลานิน (melanin)” เพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ แสงแดด สภาพผิวหนัง ฮอร์โมน อายุ ปัจจัยทางพันธุกรรม การบาดเจ็บหรือการอักเสบที่ผิวหนัง และสิว(2) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเกิดฝ้าบนใบหน้า (melasma) และรอยดำหลังเป็นสิว ซึ่งเชื่อว่าอนุมูลอิสระ (free radicals) ที่มากเกิน ร่วมกับการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ที่เพิ่มขึ้นในเซลล์ผิวหนังเป็นกลไกที่เร่งการสร้างเมลานิน(3,4) ซึ่งต่างจากคนที่มีผิวเข้มตามธรรมชาติที่มีสัดส่วนเม็ดสีผิวเข้มมากกว่าสีอ่อนตั้งแต่เกิด(5)

NAC มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ทั้งโดยตรงและจากการเป็นสารตั้งต้นของกลูตาไธโอน (glutathione)(6) อีกทั้งพบว่าสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส(3) จึงเป็นไปได้ที่ NAC จะช่วยยับยั้ง

การสร้างเม็ดสีผิวที่เป็นสาเหตุของผิวคล้ำเสีย (รูปที่ 1) ทำให้หลายคนเชื่อว่า NAC อาจช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้

รูปที่ 1 กลไกการเกิดผิวคล้ำเสียและการทำงานของ NAC ที่เชื่อว่าอาจช่วยให้ผิวขาวขึ้น

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเชื่อนี้เป็นอย่างไร?

แม้ว่า NAC จะมีฤทธิ์ตามที่กล่าวมาข้างต้นจากการศึกษาในระดับเซลล์หรือระดับโมเลกุล แต่เมื่อนำมาศึกษาในมนุษย์กลับพบว่า NAC ไม่ได้มีประสิทธิภาพเพิ่มความกระจ่างใสของผิวอย่างชัดเจน เช่น การศึกษาโดยฉีด NAC ขนาด 900 มิลลิกรัม เข้าหลอดเลือดดำ สัปดาห์ละครั้ง นาน 2 เดือน ในอาสาสมัครจำนวน 14 คน พบว่าไม่มีผลเพิ่มความกระจ่างใสบริเวณใบหน้าและแขน เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ใช้ NAC (ฉีดน้ำเกลือ) จำนวน 14 คน แต่เมื่อเปรียบเทียบเฉพาะผลก่อนและหลังฉีด NAC พบผิวกระจ่างใสเพิ่มขึ้น(7)

นอกจากนี้มีการศึกษาเกี่ยวกับการรับประทาน NAC ต่อความเข้มเม็ดสีผิว โดยให้อาสาสมัครจำนวน 20 คน รับประทาน NAC ขนาด 900 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร นาน 1 เดือน พบว่า NAC ไม่มีผลต่อความเข้มของเม็ดสีผิว เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ใช้ NAC (จำนวน 20 คน) แต่เมื่อเปรียบเทียบเฉพาะผลก่อนและหลังรับประทาน พบว่าผิวขาวขึ้นในบริเวณที่ถูกปกป้องจากแสงแดดเท่านั้น เช่น ใบหน้า (ทาครีมกันแดด) และต้นแขน (อยู่ภายในแขนเสื้อ)(8)

ส่วนกรณีฝ้าบนใบหน้า ในอดีตมีการศึกษาผลของครีมที่ประกอบด้วย 4.7% NAC และ 2% hydroquinone ในการรักษาฝ้าบนใบหน้า โดยให้อาสาสมัครจำนวน 12 คน ทาครีมวันละ 2 ครั้ง นาน 1-4 เดือน พบว่า 9 ใน 10 คน (90%) มีสีผิวหน้าจางลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 4-8 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับด้านที่ไม่ใช้ครีม อย่างไรก็ตามเนื่องจาก hydroquinone สามารถลดการสร้างเม็ดสีผิวจากการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสเช่นเดียวกัน จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นผลจาก NAC(9) ต่อมามีการศึกษาโดยให้ผู้ป่วยที่มีฝ้าบนใบหน้าระดับปานกลางถึงรุนแรง จำนวน 25 คน รับประทาน NAC ขนาด 600 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง นาน 2 เดือน พบว่า NAC ไม่ช่วยลดการเกิดฝ้าเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้ใช้ NAC(10)

จากข้อมูลเหล่านี้จะเห็นได้ว่า การศึกษาในมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาขนาดเล็ก (มีผู้ใช้ NAC จำนวนน้อย) และศึกษาในระยะสั้น (เช่น 1-2 เดือน) จึงยากต่อการสรุปอย่างแน่ชัดว่า NAC มีผลต่อความเข้มของสีผิวหรือไม่

NAC มีอันตรายหรือไม่?

โดยทั่วไป NAC รูปแบบรับประทานถือว่าปลอดภัย ทั้งในขนาดมาตรฐาน (ไม่เกิน 600 มิลลิกรัมต่อวัน) และขนาดสูง (มากกว่า 600 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่เกิน 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน) ซึ่งผลข้างเคียงไม่แตกต่างกันมากนัก โดยอาการข้างเคียงที่อาจพบ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง(11) อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้ได้จากการใช้ยาสำหรับรักษาโรคทางเดินหายใจเป็นส่วนใหญ่ และยังขาดข้อมูลความปลอดภัยในระยะยาว โดยเฉพาะหากใช้ NAC นานกว่า 2 ปี(12)

กรณีฉีด NAC ทางหลอดเลือดดำ อาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่า เช่น อาการแพ้รุนแรง (ผื่นขึ้น หายใจลำบาก หน้าหรือปากบวม) รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น หน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว บวม หรือคลื่นไส้ ดังนั้นการฉีด NAC ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามอาการหลังฉีด(13)

ซื้อ NAC มาใช้เองให้ผิวขาวได้หรือไม่ อย่างไร?

เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันว่า NAC สามารถทำให้ผิวขาวขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบฉีดหรือรับประทาน อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศไม่ได้อนุมัติให้ใช้ NAC สำหรับช่วยเพิ่มความกระจ่างใสของผิว ดังนั้นผู้บริโภคควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ต้องสูญเสียไปจากการซื้อ NAC มาใช้เองเพื่อหวังผลทำให้ผิวขาว

บทสรุป

สำหรับผู้ที่ชอบดูแลผิวพรรณและกำลังสรรหาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด รวมทั้งสอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้าน เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ก่อนนำมาใช้ เพราะแม้แต่ NAC เองก็ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าสามารถทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นได้ ทั้งนี้การหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวคล้ำเสีย เช่น แสงแดด และพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำร้ายผิว ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยดูแลรักษาสุขภาพผิวเช่นกัน

เอกสารอ้างอิง

  1. Ershad M, Naji A, Patel P, et al. N-Acetylcysteine. 2024 [cited 2025 Feb 3]. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK537183/.
  2. Thawabteh AM, Jibreen A, Karaman D, et al. Skin pigmentation types, causes and treatment-a review. Molecules 2023; 28(12):4839.
  3. Adil M, Amin SS, Mohtashim M. N-acetylcysteine in dermatology. Indian J Dermatol Venereol Leprol 2018; 84:652-9.
  4. Elbuluk N, Grimes P, Chien A, et al. The pathogenesis and management of acne-induced post-inflammatory hyperpigmentation. Am J Clin Dermatol 2021; 22(6):829-36.
  5. Alaluf S, Atkins D, Barrett K, et al. Ethnic variation in melanin content and composition in photoexposed and photoprotected human skin. Pigment Cell Res 2002; 15(2):112-8.
  6. Aldini G, Altomare A, Baron G, et al. N-Acetylcysteine as an antioxidant and disulphide breaking agent: the reasons why. Free Radic Res 2018; 52(7):751-62.
  7. ณัฐนิสา อินทะลา. ประสิทธิผลของการฉีด N-acetyl cysteine เข้าทางเส้นเลือดดำที่มีผลต่อความสว่างกระจ่างใสและความเข้มของเม็ดสีผิว. 2556 [เข้าถึงเมื่อ 3 ก.พ. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Natnisa.Intha.pdf.
  8. เนติวุธ คณาคร. การศึกษาผลของการรับประทาน เอ็น-อะเซติลซิสเตอีนที่ทำให้ผิวขาว. [เข้าถึงเมื่อ 3 ก.พ. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Netiwut.Kan.pdf.
  9. Njoo M, Menke H, Pavel S, et al. N‐Acetylcysteine as a bleaching agent in the treatment of melasma. J Eur Acad Dermatol Venereol 1997; 9(1):86-7.
  10. Alfredo MdAC, Holanda IRM, Cassiano DP, et al. Lack of efficacy of oral N-acetylcysteine in the treatment of facial melasma in women: a randomized, double-blind, placebo-controlled clinical trial. an Bras Dermatol 2024; 99(6):928-31.
  11. Calverley P, Rogliani P, Papi A. Safety of N-acetylcysteine at high doses in chronic respiratory diseases: a review. Drug Saf 2021; 44(3):273-90.
  12. Zhou Y, Wu F, Shi Z, et al. Effect of high-dose N-acetylcysteine on exacerbations and lung function in patients with mild-to-moderate COPD: a double-blind, parallel group, multicentre randomised clinical trial. Nat Commun 2024; 15(1):8468.
  13. Janeczek M, Moy L, Riopelle A, et al. The potential uses of N-acetylcysteine in dermatology: a review. J Clin Aesthet Dermatol 2019; 12(5):20-6.

คำค้นที่เกี่ยวข้อง:
N-acetylcysteine NAC ผิวขาว
 
คลิปความรู้เรื่องยา

EP.9 ยาฆ่าเชื้อและการดื้อยา Antibiotics and resistance

ดูคลิปทั้งหมด

ข่าวยาล่าสุด
    ดูข่าวยาทั้งหมด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้