![]() |
“อินซูลิน (insulin)” เป็นฮอร์โมนในร่างกายที่หลั่งออกมาจากตับอ่อน มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อเรารับประทานอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้น ตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายนำน้ำตาลจากเลือดไปใช้เป็นพลังงานหรือเก็บสะสมไว้ ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง หากผู้ใดมีความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการขาดอินซูลินหรืออินซูลินทำงานผิดปกติ จะเกิดภาวะที่เรียกว่า “เบาหวาน (diabetes)” ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาฉีดอินซูลิน
สำหรับอินซูลินที่มีจำหน่ายในรูปของยาฉีดจะใช้ในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 (type 1 diabetes) ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 (type 2 diabetes) ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยการควบคุมอาหารและยาเม็ด และผู้ป่วยเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational diabetes)
เมื่อเรารับประทานอาหาร คาร์โบไฮเดรตหรือแป้งในอาหารจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลและเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โดยทั่วไปตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินเพื่อนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานหรือเก็บสะสมไว้ แต่ในผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินในรูปของยาฉีดบางชนิด หากฉีดแล้วไม่รับประทานอาหารอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมากเกินไป จนทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หงุดหงิด กระสับกระส่าย ใจสั่น การมองเห็นไม่ชัด หรือในกรณีรุนแรง ระดับน้ำตาลในเลือดอาจต่ำมากจนหมดสติหรือเกิดอาการชักได้
อย่างไรก็ตามอินซูลินแต่ละประเภทมีช่วงเวลาออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน ไม่ใช่อินซูลินทุกประเภทที่ต้องรับประทานอาหารทันทีหลังฉีด ดังนั้นการรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับประเภทของอินซูลินที่ใช้จะช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำที่อาจเกิดขึ้นได้
เดิมอินซูลินที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยกระบวนการพันธุวิศวกรรมให้มีโครงสร้างเช่นเดียวกับอินซูลินที่ร่างกายสร้างขึ้น เรียกว่า อินซูลินมนุษย์ (human insulin) ระยะหลังมีการพัฒนาดัดแปลงอินซูลินมนุษย์ให้ออกฤทธิ์ได้เหมาะสมตามต้องการมากขึ้น เรียกว่า อินซูลินดัดแปลง (insulin analog) โดยยาฉีดอินซูลินแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ตามระยะเวลาการออกฤทธิ์ ได้แก่
นอกจากนี้ยังมีอินซูลินผสมสำเร็จรูป (premixed insulin) เพื่อความสะดวกในการใช้ ได้แก่ อินซูลินออกฤทธิ์สั้นผสมกับอินซูลินออกฤทธิ์นานปานกลาง อินซูลินออกฤทธิ์เร็วผสมกับอินซูลินออกฤทธิ์นานปานกลาง และอินซูลินออกฤทธิ์เร็วผสมกับอินซูลินออกฤทธิ์ยาวพิเศษ
โดยทั่วไปอินซูลินที่ออกฤทธิ์เร็ว ออกฤทธิ์สั้น และอินซูลินชนิดผสมสำเร็จรูป จำเป็นต้องฉีดก่อนมื้ออาหาร เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลหลังรับประทานอาหาร ในขณะที่อินซูลินที่ออกฤทธิ์นานปานกลาง ออกฤทธิ์ยาว และออกฤทธิ์ยาวพิเศษ สามารถฉีดได้โดยไม่ต้องสัมพันธ์กับมื้ออาหาร เนื่องจากมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในระยะยาว ดังรายละเอียดในตาราง
ชนิดอินซูลิน |
ตัวอย่างชื่อการค้า |
เวลาเริ่มออกฤทธิ์ |
ระยะเวลาการออกฤทธิ์ |
คำแนะนำ |
กลุ่มที่ต้องฉีดก่อนมื้ออาหาร |
||||
ออกฤทธิ์เร็ว |
- Humalog® (insulin lispro) - NovoRapid® (insulin aspart) - Apridra® (insulin glulisine) |
10-20 นาที (Humalog® 5-15 นาที) |
3-4 ชั่วโมง |
ก่อนอาหาร 15 นาที หรือระหว่างมื้ออาหาร |
ออกฤทธิ์สั้น |
- Actrapid HM® - Humulin R® - Biosulin R® - Insugen R® - Winsulin R® |
30-45 นาที |
4-8 ชั่วโมง |
ก่อนอาหาร 15-30 นาที |
ผสมสำเร็จรูป |
- Mixtard 30 HM® - Humulin® 70/30 - Blosulin® 30:70 - Insugen® 30/70 - Winsulin® 30/70 |
30-60 นาที |
12-20 ชั่วโมง |
ก่อนอาหาร 15-30 นาที |
ผสมสำเร็จรูป |
- NovoMix® 30 - Humalog Mix® 25 - Humalog Mix® 50 - Ryzodeg® 70/30 |
10-20 นาที |
12-20 ชั่วโมง (Ryzodeg® 70/30 24-36 ชั่วโมง) |
ก่อนอาหาร 15 นาที หรือระหว่าง มื้ออาหาร |
กลุ่มที่ไม่ต้องฉีดตามมื้ออาหาร |
||||
ออกฤทธิ์นานปานกลาง |
- Insulatard HM® - Humulin N® - Biosulin N® - Insugen N® - Winsulin N® |
2-4 ชั่วโมง |
10-16 ชั่วโมง |
ก่อนอาหาร 30 นาที หรือ ก่อนนอน |
ออกฤทธิ์ยาว |
- Lantus®, Glaritus®, Semglee® (insulin glargine) - Levemir® (insulin detemir) |
2 ชั่วโมง |
24 ชั่วโมง (Levemir® 18-24 ชั่วโมง) |
ฉีดตอนเย็น หรือก่อนนอน |
ออกฤทธิ์ยาวพิเศษ |
- Tresiba® (insulin degludec) - Toujeo® (insulin glargine U300) |
6 ชั่วโมง |
Tresiba® 24-36 ชั่วโมง และ Toujeo® 24-30 ชั่วโมง |
ฉีดเวลาไหนก็ได้ แต่แนะนำให้ฉีดเวลาเดิมทุกวัน |
อินซูลินเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และใช้รักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดต่าง ๆ อย่างไรก็ตามไม่ใช่อินซูลินทุกประเภทที่ต้องรับประทานอาหารทันทีหลังฉีด เนื่องจากอินซูลินแต่ละประเภทมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกเวลารับประทานอาหารให้เหมาะสมกับประเภทของอินซูลินที่ใช้จะช่วยทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำที่อาจเกิดขึ้นได้
![]() |