หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Kinase inhibitors ในปี 2020: update 1

ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือน พฤษภาคม ปี 2563 -- อ่านแล้ว 6,387 ครั้ง
 
Kinases เป็นกลุ่มเอนไซม์ที่กระตุ้นการเติมหมู่ฟอสเฟตที่มาจาก high-energy, phosphate-donating molecules เช่น ATP ให้กับซับสเตรต (เกิดกระบวนการ phosphorylation) กรณีที่ซับสเตรตเป็นกรดอะมิโน (เรียกเป็น protein kinases) ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของโปรตีนนั้น ด้วยเหตุนี้ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเอนไซม์เหล่านี้หรือการกลายพันธุ์จึงเกี่ยวข้องกับโรคหลายอย่าง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคภูมิต้านตนเอง โรคของระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคของระบบประสาท จึงมีการคิดค้นยาเพื่อยับยั้งเอนไซม์ที่ผิดปกติ ยาชนิดแรกในกลุ่ม protein kinase inhibitors คือ imatinib มีใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 2001 ขณะนี้มี direct protein kinase inhibitors ที่วางจำหน่ายแล้วราว 60 ชนิด ส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคมะเร็ง มีใช้ในโรคอื่นบ้าง เช่น ruxolitinib ใช้รักษาโรคพังผืดในไขกระดูก (myelofibrosis), tofacitinib และ baricitinib ใช้รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ สำหรับปี ค.ศ. 2020 เท่าที่มีข้อมูลขณะนี้มียาที่วางจำหน่ายแล้วนับถึงกลางเดือนพฤษภาคมนี้จำนวน 7 ชนิด คือ avapritinib, pemigatinib, selumetinib, tucatinib, capmatinib, selpercatinib และ ripretinib ข้อมูลโดยย่อมีดังนี้ (ดูข้อมูลของ pemigatinib, selumetinib และ tucatinib )

Avapritinib ออกฤทธิ์ยับยั้ง tyrosine kinase ที่ platelet-derived growth factor receptor A หรือ alpha (PDGFRA หรือ PDGFRα) ยานี้ได้รับอนุมัติในบางประเทศสำหรับรักษาโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร (gastrointestinal stromal tumor หรือ GIST) ที่พบ PDGFRα exon 18 mutation (รวมถึง PDGFRα D842V mutation) ซึ่งไม่อาจผ่าตัดหรือโรคอยู่ในระยะแพร่กระจาย ยานี้ใช้กับผู้ใหญ่ ผลิตเป็นยาเม็ดขนาด 100, 200 และ 300 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 300 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ขณะท้องว่าง ผลไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยสุด (≥ 20%) ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องเดินหรือท้องผูก บวมน้ำ อ่อนล้า ภาวะบกพร่องในสมรรถนะของสมอง (cognitive impairment) เวียนศีรษะ สีผมเปลี่ยนแปลง น้ำตาไหลและผื่นขึ้น

Capmatinib ออกฤทธิ์ยับยั้ง tyrosine kinase ที่ mesenchymal-epithelial transition (MET) protein ยานี้ได้รับอนุมัติในบางประเทศสำหรับรักษาโรคมะเร็งปอดชนิด non-small cell lung cancer (NSCLC) ที่พบ MET exon 14 skipping ซึ่งโรคอยู่ในระยะแพร่กระจาย ยานี้ใช้กับผู้ใหญ่ ผลิตเป็นยาเม็ดขนาด 150 และ 200 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง พร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ ผลไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยสุด (≥ 20%) ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนล้า ภาวะบวมน้ำส่วนปลาย (peripheral edema) และอาการหายใจลำบาก

Selpercatinib ออกฤทธิ์ยับยั้ง tyrosine kinase ที่ RET (rearranged during transfection) protein ยานี้ได้รับอนุมัติในบางประเทศสำหรับรักษาโรคมะเร็งปอดชนิด non-small cell lung cancer (NSCLC) ที่มีความผิดปกติใน RET protein (RET fusion-positive NSCLC) ในผู้ใหญ่ซึ่งโรคอยู่ในระยะแพร่กระจาย และใช้รักษาโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ (ทั้งชนิด RET-mutant medullary thyroid cancer และชนิด RET fusion-positive thyroid cancer ที่ใช้ radioactive iodine ไม่ได้หรือใช้แล้วไม่ได้ผล) ในผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งโรคอยู่ในระยะลุกลามหรือแพร่กระจายและต้องได้รับ systemic therapy ผลิตในรูปยาแคปซูลขนาด 40 และ 80 มิลลิกรัม หากน้ำหนักตัวต่ำกว่า 50 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 120 มิลลิกรัม หากน้ำหนักตัวตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป รับประทานครั้งละ 160 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 2 ครั้ง ผลไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยสุด (≥25%) ได้แก่ ปากแห้ง ท้องเดินหรือท้องผูก บวมน้ำ อ่อนล้า ความดันโลหิตสูง ผื่นขึ้น ผลทางห้องปฏิบัติการพบการเพิ่มขึ้นของระดับ aspartate aminotransferase (AST), alanine aminotransferase (ALT), alkaline phosphatase, creatinine, กลูโคสและ total cholesterol และพบการลดลงของระดับเม็ดเลือดขาว อัลบูมิน โซเดียม แคลเซียมและเกล็ดเลือด

Ripretinib ออกฤทธิ์ยับยั้ง tyrosine kinase ที่ KIT proto-oncogene receptor tyrosine kinase (KIT) และ platelet-derived growth factor receptor A หรือ alpha (PDGFRA หรือ PDGFRα) ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ ยานี้ได้รับอนุมัติในบางประเทศสำหรับรักษาโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร (gastrointestinal stromal tumor หรือ GIST) ในระยะลุกลาม ซึ่งเคยได้รับการรักษาด้วยยา kinase inhibitors ไม่น้อยกว่า 3 ชนิดรวมถึง imatinib ยานี้ใช้กับผู้ใหญ่ ผลิตเป็นยาเม็ดขนาด 50 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 150 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ ผลไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยสุด (≥ 20%) ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องเดินหรือท้องผูก อ่อนล้า ปวดกล้ามเนื้อ เกิด hand-foot syndrome (palmar-plantar erythrodysesthesia) และผมร่วง

อ้างอิงจาก:

(1) Ayvakit (avapritinib) tablets. Highlights of prescribing information. Reference ID: 4544122, revised: 5/2020. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2020/212608s000lbl.pdf; (2) Tabrecta (capmatinib) tablets. Highlights of prescribing information. Reference ID: 4603951, revised: 5/2020. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2020/213591s000lbl.pdf; (3) Retevmo (selpercatinib) capsules. Highlights of prescribing information. Reference ID: 4605720, revised: 5/2020. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2020/213246s000lbl.pdf; (4) Qinlock (ripretinib) tablets. Highlights of prescribing information. Reference ID: 4609421, revised: 5/2020. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2020/213973s000lbl.pdf
 
ข่าวยาล่าสุด
    ดูข่าวยาทั้งหมด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้