Gabapentin และ pregabalin กับความเสี่ยงต่อการใช้ในทางที่ผิดและการติดยา
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน เมษายน ปี 2562 -- อ่านแล้ว 82,635 ครั้ง
Gabapentin และ pregabalin เป็นยาในกลุ่ม gabapentinoids มีใช้มานานแล้ว โดยใช้รักษาโรคลมชักและความผิดปกติอื่น เช่น อาการปวดเส้นประสาทส่วนปลาย ยาทั้งสองมีโครงสร้างและการแสดงฤทธิ์คล้าย gamma-aminobutyric acid (มี GABA-mimetic properties) มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงนอน สงบประสาท และอาจกดการหายใจอย่างรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับยาอื่นที่กดระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยากลุ่มโอปิออยด์ และแอลกอฮอล์
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ gabapentinoids ในทางที่ผิด (abuse) และการติดยาหรือพึ่งยา (dependence) มีอย่างต่อเนื่อง ในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงาน Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA) ได้ติดตามข้อมูลการใช้ gabapentin และ pregabalin เพื่อประเมินด้านประโยชน์และความเสี่ยงของยา นับจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2562 หน่วยงานดังกล่าวได้รับรายงานถึงการใช้ pregabalin ในทางที่ผิด 113 รายงานและการติดยา 98 รายงาน ส่วนการใช้ gabapentin ในทางที่ผิด 11 รายงานและการติดยา 9 รายงาน จากข้อมูลดังกล่าวในสหราชอาณาจักรจึงปรับระดับการควบคุมยาเหล่านี้โดยถือว่าเป็นยาผิดกฎหมาย (illegal drugs) จัดอยู่ใน Class C ภายใต้ Misuse of Drugs Act 1971 (ในสหราชอาณาจักรแบ่งการควบคุมยาที่ถือว่าผิดกฎหมายไว้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ Class A, B และ C ซึ่ง Class A มีบทลงโทษหนักที่สุด) และอยู่ใน Schedule 3 ภายใต้ Misuse of Drugs Regulations 2001 โดยมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 นี้ ในสหรัฐอเมริกานั้น Drug Enforcement Administration (DEA) จัด pregabalin ไว้ใน Schedule V controlled substance ส่วน gabapentin ไม่ได้ถูกควบคุม (non-schedule medication)
สำหรับสหราชอาณาจักร ผลจากการจัด gabapentin และ pregabalin ไว้ใน Class C controlled substances หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงให้ข้อมูลและข้อแนะนำสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาดังกล่าวไว้โดยสรุปดังนี้
ให้ข้อมูลกับผู้ป่วยถึงประโยชน์และความเสี่ยงของ gabapentin หรือ pregabalin (แล้วแต่กรณี) รวมถึงการใช้ยาในทางที่ผิดและการติดยา
ประเมินผู้ป่วยอย่างรอบคอบถึงประวัติการใช้ยาในทางที่ผิดและการติดยา ก่อนการสั่งใช้ยาดังกล่าว
เมื่อผู้ป่วยใช้ยาให้ติดตามสังเกตอาการแสดงที่บ่งบอกถึงการใช้ในทางที่ผิดและการติดยา เช่น พฤติกรรมในการแสวงหายามาใช้ การเพิ่มขนาดยาขึ้นเรื่อยๆ และการทน (tolerance) ต่อฤทธิ์ยา
แพทย์ผู้สั่งยาต้องลงนามในใบสั่งยาทุกครั้ง ไม่ใช้การสั่งยาทางอิเล็กทรอนิกส์ และเภสัชกรต้องจ่ายยาภายใน 28 วันนับจากวันที่ระบุในใบสั่งยา (ใบสั่งยาหมดอายุใน 28 วัน)
การที่ gabapentin และ pregabalin มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง จึงควรระวังปฏิกิริยากับยาอื่นที่อาจเสริมฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง และควรให้ผู้ป่วยได้ตระหนักถึงความเสี่ยงดังกล่าวด้วย ซึ่งการเสริมฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลางอาจกดการหายใจอย่างรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับยากลุ่มโอปิออยด์และแอลกอฮอล์
ในสหราชอาณาจักรยังกำหนดให้สถานที่จำหน่ายยาเหล่านี้ ก่อนจะทิ้งยาต้องทำลายยาให้อยู่ในสภาพที่ไม่อาจนำไปใช้ได้อีก นอกจากนี้ผู้ที่ครอบครองยาโดยไม่ผ่านใบสั่งยาถือเป็นการทำผิดกฎหมาย และผู้ป่วยที่ให้ยาหรือขายยาของตนให้ผู้อื่นถือเป็นการทำผิดกฎหมายด้วย
อ้างอิงจาก:
(1) Peckham AM, Sclar DA. Need for international classification of gabapentin as a controlled substance. BMJ 2018. doi: 10.1136/bmj.k4978; (2) Mayor S. Pregabalin and gabapentin become controlled drugs to cut deaths from misuse. BMJ 2018. doi: 10.1136/bmj.k4364; (3) Torjesen I. Pregabalin and gabapentin: what impact will reclassification have on doctors and patients? BMJ 2019. doi: 10.1136/bmj.l1107; (4) Pregabalin (Lyrica), gabapentin (Neurontin) and risk of abuse and dependence: new scheduling requirements from 1 April. Drug Safety Update volume 12, issue 9: April 2019:4.
คำค้นที่เกี่ยวข้อง:
gabapentin
pregabalin
gabapentinoids
โรคลมชัก
อาการปวดเส้นประสาทส่วนปลาย
gamma-aminobutyric acid
GABA-mimetic properties
Medicines and Healthcare products Regulatory Agency
MHRA
ยาผิดกฎหมาย
illegal drugs
Misuse of Drugs Act 1971
Schedule