มียาหลายชนิดที่มีศักยภาพทำให้ลูกในท้องพิการ (teratogenic potential) เช่น ยาต้านไทรอยด์ (carbimazole, methimazole), dolutegravir, valproate, mycophenolate mofetil (รวมถึง mycophenolic acid), isotretinoin, leflunomide, methotrexate, phenytoin, thalidomide จึงมีข้อควรคำนึงและข้อแนะนำสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาดังกล่าวไว้ดังข้างล่างนี้ ซึ่งข้อมูลบางอย่างเป็นสาระสำคัญที่ Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA) ของสหราชอาณาจักรจะพิจารณานำไปใช้ในการวางแนวทางการใช้ยาที่มีศักยภาพทำให้ลูกในท้องพิการในระยะอันใกล้นี้
ความเสี่ยงของยาที่จะทำอันตรายต่อทารกในครรภ์เกิดได้ทุกระยะของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสแรกหรือช่วงเริ่มตั้งครรภ์จนถึงอายุครรภ์ราว 12 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีพัฒนาการของตัวอ่อนโดยมีการสร้างอวัยวะ ทั้งอวัยวะภายในและอวัยวะภายนอก จึงเสี่ยงต่อการทำให้ทารกพิการรุนแรงได้ (ดูรูป)
ให้ข้อมูลกับสตรีที่จะใช้ยา เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงของยาที่อาจทำให้ลูกในท้องพิการ
ไม่สั่งใช้ยาให้กับสตรีที่ไม่อาจทราบได้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ต้องผ่านการทดสอบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
แนะนำสตรีให้หลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ในช่วงที่ใช้ยา โดยแนะนำให้ใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง
(ดู ข้อควรคำนึงเกี่ยวกับการทดสอบการตั้งครรภ์และการเลือกวิธีคุมกำเนิด ในข่าวยาเรื่อง “ยาที่อาจทำให้ลูกในท้องพิการ...จะเลือกการคุมกำเนิดวิธีใด?” ได้ที่ https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/news_week_full.php?id=1501)
ผู้สั่งใช้ยาควรคำนึงถึงระยะเวลาที่สั่งใช้ยาในแต่ละคราวโดยให้สอดคล้องกับวิธีคุมกำเนิด หากผู้ป่วยใช้วิธีการคุมกำเนิดชนิดที่ออกฤทธิ์สั้น (ซึ่งต้องทดสอบการตั้งครรภ์บ่อย เพราะต้องประเมินประสิทธิภาพของยาทุกครั้งก่อนเริ่มดำเนินการคุมกำเนิดต่อเนื่องในครั้งต่อไป) ควรสั่งใช้ยาในแต่ละคราวเป็นระยะเวลาสั้นๆ
กรณีที่ไม่สามารถตัดประเด็นเรื่องการตั้งครรภ์ออกไปได้ ในการตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใช้หรือการใช้ต่อเนื่องไปจะขึ้นกับสถานการณ์ของผู้ป่วยแต่ละราย ได้แก่ ความจำเป็นอย่างเร่งด่วนและทางเลือกอื่นในการรักษา หากรอได้หรือมีการรักษาทางเลือกอื่นให้ชะลอการใช้ยาที่มีศักยภาพทำให้ลูกในท้องพิการนั้นออกไปก่อน รอจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ตั้งครรภ์โดยผ่านการทดสอบการตั้งครรภ์ซ้ำอีกครั้ง
ในเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ยา จะมีข้อแนะนำ/คำเตือน ในการใช้ยาแจ้งไว้ ซึ่งยาบางอย่างอาจมีวิธีปฏิบัติระบุเป็นพิเศษออกไป
อ้างอิงจาก:
(1) Medicines with teratogenic potential: what is effective contraception and how often is pregnancy testing needed? Drug Safety Update volume 12, issue 8: March 2019:3; (2) Hill MA. Embryology abnormal development - teratogens. https://embryology.med.unsw.edu.au/embryology/index.php/Abnormal_Development_-_Teratogens]; (3) RxList - The Internet Drug Index for prescription drug information. https://www.rxlist.com/vabomere-drug.htm.