หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ประจำเดือนมาวันที่ 30 มี.ค. แล้วก์หายวันที่ 4 เม.ษ. แล้วไปมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 15 เม.ษ.แตกในแล้วก์กินยาคุมกำเนิดแบบธรรมดาแต่ประจำเดือนก์มาวันที่9พ.ค.ถ้าเดือนหน้าประจำเดือนไม่มาแล้วแบบนี้จะท้องรึป่าวคะ

ถามโดย มยุรา เผยแพร่ตั้งแต่ 22/05/2014-23:22:09 -- 2,128 views
 

คำตอบ

ตามข้อมูลที่เล่ามานั้น หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้วต่อมามีประจำเดือนแม้จะมาล่าช้ากว่าปกติ จึงถือว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งนั้นไม่ทำให้ตั้งครรภ์ ยาคุมกำเนิดรับประทานเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ และไม่ได้มีผลย้อนหลัง การรับประทานยาคุมกำเนิด แนะนำให้รับประทานยาวันแรกที่มีประจำเดือนแต่ไม่เกินวันที่ 5 ของรอบเดือน (ไม่เกิน 5 วันนับจากวันแรกที่มีประจำเดือน) กรณีที่ต้องการเริ่มรับประทานยาหลังจากวันที่ 5 ของรอบเดือนก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องมั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ และควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 7 วันนับจากวันที่เริ่มรับประทานยาคุมกำเนิด กรณีดังกล่าวหากพบว่าประจำเดือนคลาดเคลื่อนจากที่คาดการณ์ไว้ แนะนำให้ทดสอบการตั้งครรภ์ Key words: contraceptive, pregnant, ยาคุมกำเนิด, ตั้งครรภ์

Reference:
1. U.S. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use, 2013. MMWR 2013; 62(5):1-60.
2. Contraceptive Combination. In: DRUGDEX System [database on the Internet]. Ann Arbor (MI): Truven Health Analytics; 2014. Available from: www.micromedexsolutions.com.

Keywords:
-





ฮอร์โมน

ดูคำถามทั้งหมด
 
ข่าวยาประจำสัปดาห์ล่าสุด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้