FDA ให้ข้อระวังการใช้ Tarceva® ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับบกพร่อง
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือน ธันวาคม ปี 2551 -- อ่านแล้ว 8,841 ครั้ง
Tarceva® (erlotinib) เป็นยาต้านมะเร็ง ออกฤทธิ์โดยยับยั้บการเติมหมู่ฟอสเฟตของเอนไซม์ tyrosine kinase ซึ่งเป็นการยับยั้ง epidermal growth factor receptor (EGFR) ซึ่งอยู่บนผิวเซลล์มะเร็ง Tarceva metabolism ที่ตับโดยผ่านเอนไซม์ CYP 3A4 เป็นหลัก และถูกกำจัดออกทางอุจจาระร้อยละ 83 และทางปัสสาวะร้อยละ 8 ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับบกพร่อง (มีค่า total bilirubin มากกว่า upper normal limit หรือจัดอยู่ใน Child-Pugh A, B หรือ C) และได้รับยา Tarceva ควรมีการตรวจติดตามการทำงานของตับอย่างใกล้ชิดและระมัดระวังในการใช้ยาเป็นพิเศษในผู้ป่วยที่มี total bilirubin มากกว่า 3 เท่าของ upper normal limit สำหรับผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานของตับไปเป็นขั้นบกพร่องอย่างรุนแรงได้แก่ มีระดับ total bilirubin มากขึ้น 2 เท่าหรือระดับเอนไซม์ transminase มากขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับก่อนได้รับการรักษาควรหยุดยา Tarceva ส่วนในผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานของตับแย่ลงแต่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรงควรงดเว้นการให้ยาหรือลดขนาดยาลงโดยลดลง 50 mg พร้อมทั้งตรวจติดตามการทำงานของตับอย่างใกล้ชิด ถ้าผู้ป่วยมี total bilirubin มากกว่า 3 เท่าของ upper normal limit หรือมีค่าเอนไซม์ transminase มากกว่า 5 เท่าของ upper normal limit เมื่อเทียบกับค่าปกติก่อนได้รับการรักษาควรงดเว้นการให้ยาหรือหยุดยา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้ป่วยมีภาวะตับวายและอาการ hepatorenal syndrome ในระหว่างที่ได้รับยา Tarceva โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับบกพร่องเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรมีการตรวจติดตามการทำงานของตับได้แก่ การตรวจค่าเอนไซม์ transminase alkaline phosphatase และ bilirubin ในผู้ป่วยเหล่านี้ ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับความปลอดภัยจาการใช้ยาที่ได้จากการศึกษาทางเภสัชจลนศาสตร์ในผู้ป่วยมะเร็ง solid tumors และมีการทำงานของตับบกพร่องขั้นปานกลางถึงรุนแรงตามเกณฑ์ของ Child-Pugh พบว่าผู้ป่วย 10 ใน 15 รายตายระหว่างที่ได้รับยาหรือภายใน 30 วันหลังจากได้รับยา Tarceva ครั้งสุดท้าย แม้พบว่าผู้ป่วย 8 ราย จะตายจากโรครุดหน้าแต่ ผู้ป่วย 1 รายตายจากอาการ hepatorenal syndrome และอีก 1 รายตายจากการที่มีการรุดหน้าของภาวะตับวาย โดยที่ผู้ป่วย 6 ใน 10 รายที่ตายมีค่า baseline total bilirubin มากกว่า 3 เท่าของ upper normal limit และผู้ป่วยทุกรายมีการทำงานของตับบกพร่องเนื่องมาจากโรคมะเร็ง เช่น เป็นมะเร็งที่เซลล์ตับ cholangiocarcinoma หรือมีการลุกลามของมะเร็งไปที่ตับ เป็นต้น