Mycophenolate mofetil/mycophenolic acid กับข้อแนะนำให้คุมกำเนิดแม้ใช้ยาเหล่านี้ในผู้ชาย
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2561 -- อ่านแล้ว 11,196 ครั้ง
Mycophenolate mofetil และ mycophenolic acid (mycophenolate sodium) มีฤทธิ์กดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน ใช้ป้องก้นการปฏิเสธเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่ปลูกถ่าย (transplant rejection) ในร่างกาย mycophenolate mofetil จะถูกเปลี่ยนเป็น mycophenolic acid ยาเหล่านี้ทำให้ทารกในครรภ์พิการได้ (teratogenicity) และมีความเป็นพิษต่อยีน (genotoxicity) ประมาณ 45-49% ของรายที่สัมผัสยาในช่วงตั้งครรภ์เกิดการแท้งบุตร และราว 23-27% มีทารกในครรภ์พิการ จึงไม่ใช้ยาเหล่านี้ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ ส่วนในผู้ชายยังไม่มีคำเตือนที่ชัดเจนเนื่องจากผลการศึกษาทางคลินิกเท่าที่มีอยู่พบว่าผู้ชายที่ได้รับยาเหล่านี้ไม่ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อการตั้งครรภ์หรือทารกพิการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ในสหภาพยุโรปได้มีการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยของ mycophenolate mofetil และ mycophenolic acid หลังจากนั้นได้ลงความเห็นว่า แม้ข้อมูลทางคลินิกเท่าที่มีอยู่ขณะนี้ไม่พบว่าผู้ชายที่สัมผัสกับ mycophenolic acid จะทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อการตั้งครรภ์หรือทารกพิการเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่อาจตัดความเสี่ยงนี้ออกไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก mycophenolic acid มีความเป็นพิษต่อยีนซึ่งอาจส่งผ่านทางตัวอสุจิ อีกทั้งยาถูกขับออกทางน้ำอสุจิได้แม้จะไม่ทราบปริมาณที่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้เมื่อคำนึงถึงความปลอดภัยจึงมีคำเตือนไว้ก่อนโดยให้มีการคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้ในผู้ชายที่ใช้ยาหรือผู้หญิงที่เป็นคู่นอน ตลอดช่วงที่ใช้ยาไปจนถึงอย่างน้อย 90 วันหลังหยุดใช้ยาแล้ว สำหรับสหราชอาณาจักรได้ให้ข้อมูลและข้อแนะนำแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการสั่งจ่ายยา mycophenolate mofetil และ mycophenolic acid ไว้ดังนี้
กรณีเป็นผู้ป่วยชาย
- ข้อมูลทางคลินิกเท่าที่มีอยู่ขณะนี้ไม่พบว่าผู้ชายที่สัมผัสกับ mycophenolic acid จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์ทั้งในด้านการแท้งบุตรและการทำให้ทารกในครรภ์พิการ อย่างไรก็ตาม mycophenolic acid เป็นพิษต่อยีน จึงไม่อาจตัดความเสี่ยงนี้ออกไปอย่างสิ้นเชิง
- เพื่อความปลอดภัยจึงมีคำเตือนให้คุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้ในผู้ชายที่ใช้ยาหรือในผู้หญิงที่เป็นคู่นอน ตลอดช่วงที่ใช้ยาไปจนถึงอย่างน้อย 90 วันหลังหยุดใช้ยาแล้ว
- ปรึกษาร่วมกันกับผู้ป่วยที่วางแผนจะมีบุตร เพื่อพิจารณาทั้งด้านการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกันและด้านผลไม่พึงประสงค์ของยาต่อการตั้งครรภ์
กรณีเป็นผู้ป่วยหญิง ให้ย้ำเตือนอีกเกี่ยวกับสิ่งต่อไปนี้
- ผู้ที่จะใช้ยาต้องทราบถึงความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ผู้ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ควรใช้การคุมกำเนิด 2 วิธี โดยต้องเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้อย่างน้อย 1 วิธี ตั้งแต่ก่อนใช้ยา ตลอดช่วงที่ใช้ยา และอีก 6 สัปดาห์หลังหยุดใช้ยาแล้ว
- ห้ามใช้ mycophenolate mofetil และ mycophenolic acid ในผู้ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ซึ่งไม่มีการคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้ และในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์เว้นแต่ว่าจะไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะป้องกันการปฏิเสธเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่ปลูกถ่าย ในการทดสอบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์นั้นให้ทดสอบ 2 ครั้ง ห่างกัน 8-10 วัน
- หากมีอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ ที่สงสัยว่าจะเกิดจากการใช้ยาเหล่านั้น รวมถึงที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ให้รายงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากยา
อ้างอิงจาก
(1) Mycophenolate mofetil, mycophenolic acid: updated contraception advice for male patients. Drug Safety Update volume 11 issue 7; February 2018: 2; (2) European Medicines Agency. Mycophenolate: updated recommendations for contraception for men and women. 15 December 2017, EMA/828208/2017; (3) Midtvedt K, Bergan S, Reisæter AV, Vikse BE, Åsberg A. Exposure to mycophenolate and fatherhood. Transplantation 2017;101:e214-e217.
คำค้นที่เกี่ยวข้อง:
mycophenolate mofetil
mycophenolic acid
mycophenolate sodium
ฤทธิ์กดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน
การปฏิเสธเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่ปลูกถ่าย
transplant rejection
ทารกในครรภ์พิการ
teratogenicity
ความเป็นพิษต่อยีน
genotoxicity
การคุมกำเนิด