Valproic acid ไม่ปลอดภัยในหญิงมีครรภ์
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน ธันวาคม ปี 2557 -- อ่านแล้ว 18,677 ครั้ง
Valproic acid (sodium valproate) เป็นยากันชัก (anticonvulsant) นอกจากใช้รักษาโรคลมชัก (epilepsy) แล้ว ยังใช้รักษาโรคอารมณ์สองขั้ว (bipolar disorder) ใช้ป้องกันอาการของโรคไมเกรน (migraine) ตลอดจนใช้ป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (neuropathic pain) จากรายงานก่อนหน้านี้มีข้อมูลเกี่ยวกับ valproic acid ที่อาจลดค่าไอคิว (IQ scores) ของเด็กที่มารดาได้รับยาช่วงตั้งครรภ์ ในสหรัฐอเมริกาหากใช้ยานี้เพื่อรักษาโรคลมชักและโรคอารมณ์สองขั้วจะจัดอยู่ใน pregnancy category “D" (ยาอาจมีประโยชน์เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่มีต่อทารก) แต่ถ้าใช้เพื่อป้องกันอาการของโรคไมเกรนจะห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์โดยจัดยานี้อยู่ใน pregnancy category "X" (ความเสี่ยงที่มีต่อทารกมีมีน้ำหนักกว่าประโยชน์ที่จะได้รับจากยา)
มีข้อมูลที่สนับสนุนถึงผลกระทบจากการใช้ valproic acid ในหญิงตั้งครรภ์ เป็นข้อมูลในเด็กก่อนวัยเรียนที่มารดาได้รับยาขณะตั้งครรภ์ พบว่าเด็ก 30-40% มีปัญหาด้านพัฒนาการ เช่น เดินได้ช้า พูดได้ช้า มีปัญหาด้านความจำ มีปัญหาในการพูด และมีสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ และประมาณ 11% มีความเสี่ยงต่อความพิการหลังคลอด เช่น มีความผิดปกติของท่อระบบประสาท (neural tube defects) และเพดานโหว่ (cleft palate) เทียบกับความเสี่ยงต่อความพิการหลังคลอดซึ่งพบในเด็กทั่วไปได้ 2-3% นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าเด็กที่สัมผัสยาผ่านทางมารดาขณะตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มโรคออทิสติก (autistic spectrum disorder) ได้ 3 เท่า มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคออทิซึม (autism) ในวัยเด็ก (มีความผิดปกติทางการสื่อสารและอารมณ์) ได้ 5 เท่า และยังอาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการของโรคสมาธิสั้น (attention-deficit/hyperactivity disorder; ADHD) แต่ในกรณีหลังนี้ข้อมูลมีจำนวนจำกัด เมื่อเร็วๆ นี้ Pharmacovigilance Risk Assessment Committee (PRAC) ขององค์กร European Medicines Agency (EMA) ได้ทบทวนความปลอดภัยในการใช้ valproic acid ในหญิงตั้งครรภ์ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ ซึ่งยาอาจทำให้ทารกพิการและรบกวนพัฒนาการของเด็กหลังคลอด คณะกรรมการดังกล่าวจึงมีข้อแนะนำให้เพิ่มความเข้มงวดในการใช้ valproic acid ในหญิงที่มีโอกาสตั้งครรภ์ โดยไม่ให้ใช้ยานี้ในการรักษาโรคลมชักหรือโรคอารมณ์สองขั้วและรวมไปถึงการใช้เพื่อป้องกันอาการของโรคไมเกรนในหญิงที่มีโอกาสตั้งครรภ์ เว้นแต่ว่าการรักษาโดยวิธีอื่นจะไม่ได้ผลหรือทนต่อผลข้างเคียงไม่ได้ หากจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวควรมีการคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพและควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการใช้ยาในหญิงสภาวะดังกล่าว
อ้างอิงจาก:
(1) FDA warns pregnant women to not use certain migraine prevention medicines. http://www.rxlist.com/script/main/art.asp?articlekey=169682; (2) Restrict valproate, EMA Committee urges. Medscape. Oct 14, 2014; (3) Zawab A, Carmody J. Safe use of sodium valproate. Aust Prescr 2014;37:124-7
คำค้นที่เกี่ยวข้อง:
valproic acid
sodium valproate
anticonvulsant
epilepsy
bipolar disorder
migraine
neuropathic pain
IQ score
pregnancy category D
pregnancy category X
cleft palate
Pharmacovigilance Risk Assessment Committee
PRAC
European Medicines Agency