Rivaroxaban ทำให้เกิดภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารมากกว่ายา warfarin ในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (atrial fibrillation)
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือน ตุลาคม ปี 2555 -- อ่านแล้ว 12,534 ครั้ง
Dr.Christopher Nessel จากหน่วยวิจัยและพัฒนาของ Johnson & Johnson และคณะ ได้ทำการศึกษา ROCKET AF เพื่อเปรียบเทียบอุบัติการณ์การเกิดภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร จากการได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดใหม่ในกลุ่ม direct thrombin inhibitor (DTI) คือ rivaroxaban กับยา warfarin ในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด atrial fibrillation ที่ไม่ได้เปลี่ยนลิ้นหัวใจ จำนวน 14,264 ราย โดยติดตามการเกิดภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารในระหว่างใช้ยาและหลังหยุดยาไปแล้ว 2 วัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับยา rivaroxaban มีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบน ส่วนล่างและทวารหนักมากกว่ากลุ่มที่ได้รับยา warfarin (ร้อยละ 3.61 เทียบกับ 2.6 ต่อปี ตามลำดับ hazard ratio [HR] 1.39; 95% confidence interval [CI], 1.19 - 1.61) และยังพบภาวะเลือดออกรุนแรง (major bleeding)และไม่รุนแรง (non-major bleeding) ได้บ่อยกว่ากลุ่มที่ได้รับยา warfarin โดยผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกรุนแรงมักเคยมีประวัติเลือดออกในอดีต หรือมีภาวะโลหิตจาง หรือมีการทำงานของไตที่ต่ำกว่าปกติ หรือมีประวัติสูบบุหรี่หรือเคยสูบบุหรี่มาก่อน และมีอายุมาก แต่ภาวะเลือดออกที่อันตรายถึงชีวิต (fatal bleeding) เกิดขึ้นน้อยกว่าในกลุ่มที่ได้รับยา rivaroxaban เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยา warfarin (จำนวน 1 ราย กับ 5 ราย) ดังนั้นในการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดตัวใหม่ๆเช่น ยา rivaroxaban ควรชั่งใจระหว่างประโยชน์และความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกของผู้ป่วยก่อนที่จะเริ่มต้นใช้ยา