โรคของระบบทางเดินอาหารที่เราได้ยินบ่อย ๆ ได้แก่ กรดไหลย้อน (gastroesophageal reflux disease; GERD) และกระเพาะอาหารแปรปรวน (dyspepsia) มักมีความคล้ายคลึงกันทั้งด้านอาการที่พบและยาที่ใช้รักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดแสบท้องหรือแสบร้อนบริเวณท้อง ลิ้นปี่ เนื่องจากมีกรดเกินที่กระเพาะอาหาร1 ทำให้คนส่วนใหญ่มักเลือกใช้ยาลดกรดเป็นยาบรรเทาอาการ อย่างไรก็ตามยาลดกรดที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งที่อยู่ในรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ หรือเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ผู้ป่วยสามารถเลือกซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป รวมทั้งยังมีในรูปแบบยาอันตรายที่ต้องซื้อจากร้านขายยา จึงอาจทำให้เกิดความสงสัยหรือสับสนเกี่ยวกับความแตกต่างของสูตรตำรับยาและการเลือกใช้ ดังนั้นบทความนี้จะช่วยคลายความสงสัยและทำให้สามารถเลือกยาบรรเทาโรคกรดไหลย้อนและโรคกระเพาะอาหารแปรปรวนได้อย่างเหมาะสม
กรดไหลย้อน มีสาเหตุเกิดจากการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารไปสู่บริเวณหลอดอาหาร ทำให้เกิดการระคายเคือง อาการหลักที่มักพบ ได้แก่ จุกแน่นหน้าอกหรือแสบร้อนกลางอก (heartburn) ซึ่งอาจจะรู้สึกเหมือนมีอาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โดยมีอาการเจ็บลึก ๆ หนัก ๆ หรือรู้สึกเหมือนถูกกดที่บริเวณหน้าอก และอาจมีร้าวไปที่บริเวณไหล่ แขน นอกจากนี้มักพบอาการเรอเปรี้ยวหรือมีอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่ปากและลำคอ (regurgitation) รวมทั้งอาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ไอมากขึ้นช่วงหลังทานอาหารหรือในตอนกลางคืน เสียงแหบเนื่องจากมีการระคายเคืองบริเวณลำคอจากกรด บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนมีก้อนที่ลำคอ หรือกลืนลำบากร่วมด้วย2,3 วิธีการรักษาโรคกรดไหลย้อนจะเน้นให้ผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต (lifestyle modification) และใช้ยาเพื่อควบคุมอาการและรักษาโรค โดยยาบรรเทาอาการกรดไหลย้อนที่ใช้ได้ ได้แก่ ยาลดการไหลย้อนของกรด (anti-reflux agents) และยาลดกรด (antacids)4
โรคกระเพาะอาหารแปรปรวน เป็นความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหารส่วนบน (upper gastrointestinal tract) ประกอบด้วย หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น ซึ่งโรคกระเพาะอาหารแปรปรวนเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การรับประทานอาหารปริมาณมากเกินไป การรับประทานผิดเวลาบ่อย ๆ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด ความวิตกกังวล หรือจากการใช้ยาบางชนิด ไม่ว่าจะเป็นยาต้านอักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์หรือเอ็นเสด (NSAIDs) หรือยาฆ่าเชื้อบางชนิด และรวมไปถึงสาเหตุที่เกิดจากโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ (gastritis) แผลในทางเดินอาหาร (peptic ulcer disease) เป็นต้น5-7 อาการของโรคกระเพาะอาหารแปรปรวนมักเหมือนกับโรคในระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ รวมถึงโรคกรดไหลย้อน และมักจะเป็นอาการเรื้อรัง โดยอาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ไม่สบายท้อง ปวดแสบท้อง แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องอืดหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ หรือมีอาการอิ่มเร็วกว่าปกติ บางรายอาจมีอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ หรือมีการอาเจียน8,9 หากมีการตรวจอย่างละเอียดโดยแพทย์แล้วพบว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติใด ๆ และไม่สามารถจัดกลุ่มเป็นโรคระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ ได้ จะเรียกอาการนี้ว่า ภาวะกระเพาะอาหารแปรปรวนชนิดไม่มีแผล (functional/non-ulcer dyspepsia) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามลักษณะของอาการเด่น ได้แก่ กลุ่มที่มีอาการไม่สบายท้องที่สัมพันธ์กับมื้ออาหาร (postprandial distress syndrome; PDS) และกลุ่มที่มีอาการแสบท้องบริเวณลิ้นปี่ (epigastric pain syndrome; EPS) โดยทั้งสองกลุ่มอาจใช้ยาลดกรด ยาแก้ท้องอืด สำหรับบรรเทาอาการแสบท้อง แน่นท้องได้เหมือนกัน7
ยาเหล่านี้ใช้รับประทานเฉพาะเวลามีอาการเนื่องจากภาวะกรดเกินที่กระเพาะอาหาร ไม่จำเป็นต้องรับประทานต่อเนื่อง หากไม่มีอาการสามารถหยุดทานได้ทุกเมื่อ ตัวอย่างยาสำหรับบรรเทาอาการในโรคทางเดินอาหารจากภาวะกรดเกิน ได้แก่
ยาลดกรด (antacids)10 คือ กลุ่มยาที่เป็นด่างอ่อน ออกฤทธิ์โดยทำปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะอาหารได้เป็นเกลือกับน้ำ ทำให้เกิดการสะเทินและลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารลง จึงสามารถบรรเทาอาการแสบท้อง ปวดท้อง อาหารไม่ย่อยจากกรดเกินได้ ตัวยาที่มักพบในสูตรยาลดกรดประกอบด้วย โซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) โพแทสเซียมไบคาร์บอเนต (potassium bicarbonate) แคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) แมกนีเซียมคาร์บอเนต (magnesium carbonate) อลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (aluminium hydroxide) และแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (magnesium hydroxide) ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการสะเทินกรดที่แตกต่างกัน ดังนี้
โดยยาลดกรดมักมีตัวยาเหล่านี้อย่างน้อย 2 ชนิดผสมอยู่ในตำรับเดียวกัน ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพและลดอาการข้างเคียง องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) มีข้อกำหนดว่าขนาดยาที่สามารถใช้เป็นยาลดกรดได้ต้องมีความเข้มข้นของด่างอ่อนต่อปริมาณยาที่ให้ในหนึ่งครั้งมากกว่าหรือเท่ากับ 5 มิลลิอิควิวาเลนต์11 อีกทั้งมีการศึกษากล่าวว่าการรับประทานยาลดกรดประมาณ 156 มิลลิอิควิวาเลนต์ หลังอาหารภายใน
1 ชั่วโมง จะสามารถช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพนานถึง 2 ชั่วโมง12 แต่ในทางปฏิบัติหากรับประทานยาลดกรดที่มีจำหน่ายในท้องตลาดบางยี่ห้อหรือบางสูตร อาจต้องรับประทานในขนาดยาที่มากกว่าระบุไว้บนฉลากยา ดังนั้นการเลือกใช้ยาให้เหมาะสมจึงควรพิจารณาจากความเข้มข้นของด่างอ่อน เพื่อประสิทธิภาพในการสะเทินกรดที่ดีและช่วยบรรเทาอาการปวด แสบท้องได้ ตัวอย่างยาลดกรดที่มีจำหน่ายในท้องตลาดแสดงในตาราง
ชื่อยาและส่วนประกอบ |
วิธีใช้ (ฉลากยา) |
ตัวอย่างชื่อการค้า |
---|---|---|
Aluminium hydroxide 660 มก./15 มล. + Magnesium hydroxide 360 มก./15 มล. (38 มิลลิอิควิวาเลนต์/15 มล.) |
ครั้งละ 10-20 มล. ก่อนอาหาร 30 นาที หรือหลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการ |
Antacil Gel HH, Amogin-Gel |
Dried aluminium hydroxide 250 มก./เม็ด + Magnesium trisilicate 350 มก./เม็ด + Kaolin (ยาเคลือบกระเพาะ) 50 มก./เม็ด (15 มิลลิอิควิวาเลนต์/เม็ด) |
ครั้งละ 1-2 เม็ด เคี้ยวก่อนทาน วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร 1-2 ชั่วโมง และก่อนนอน |
Antacil |
Sodium bicarbonate 1.96 ก./4.3 ก. + Citric acid anhydrous 1.85 ก./4.3 ก. + Sodium carbonate anhydrous 0.43 ก./4.3 ก. (3 มิลลิอิควิวาเลนต์/4.3 ก., นิยมใช้เพื่อขับลม) |
ครั้งละ 1 ซอง ละลายในน้ำ ไม่ควรทานเกินวันละ 6 ซอง |
ENO |
Magnesium hydroxide 400 มก./5 มล. (14 มิลลิอิควิวาเลนต์/5 มล., นิยมใช้เป็นยาระบาย) |
ครั้งละ 5-15 มล. วันละ 4 ครั้ง |
Emulax milk of magnesia, Maalox alum milk |
หมายเหตุ: 1 มล. เท่ากับ 1 ซีซี, 5 มล. เท่ากับ 1 ช้อนชา, 15 มล. เท่ากับ 1 ช้อนโต๊ะ
ยาลดกรดที่มีตัวยาเสริม คือ สูตรยาที่ประกอบด้วยยาลดกรดและตัวยาเสริมเพื่อช่วยบรรเทาอาการอื่น ๆ นอกเหนือจากอาการปวด แสบท้อง เนื่องจากภาวะกรดเกินที่กระเพาะอาหาร เช่น อาการแสบร้อนกลางอก ท้องอืด ซึ่งในแต่ละชื่อการค้าจะมีความแตกต่างกันไปทั้งส่วนประกอบในสูตรตำรับและปริมาณตัวยา ดังนั้นจึงควรพิจารณาอาการร่วมที่พบ และเลือกตัวยาเสริมในสูตรยาลดกรดให้เหมาะสม ตัวอย่างยาเสริม ได้แก่
1. กรดอัลจินิก (alginic acid) หรือโซเดียมอัลจิเนต (sodium alginate) เป็นสารที่เมื่อสัมผัสกับกรดในกระเพาะอาหารจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นชั้นแพเจล (raft) ปกคลุมกรดไม่ให้่ไหลย้อนกลับสู่หลอดอาหาร13 จึงช่วยลดอาการแสบร้อนกลางอกจากภาวะกรดไหลย้อน ตัวอย่างยาที่มีจำหน่ายในท้องตลาดแสดงในตาราง
ชื่อยาและส่วนประกอบ |
วิธีใช้ (ฉลากยา) |
ตัวอย่างชื่อการค้า |
---|---|---|
Alginic acid 200 มก./เม็ด + Dried aluminium hydroxide 30 มก./เม็ด + Magnesium carbonate 40 มก./เม็ด (2 มิลลิอิควิวาเลนต์/เม็ด) |
ครั้งละ 1-3 เม็ด เคี้ยวก่อนทาน วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน |
Algycon Chewable |
Sodium alginate 500 มก./10 มล. + Sodium bicarbonate 267 มก./10 มล. + Calcium carbonate 160 มก./10 มล. (6 มิลลิอิควิวาเลนต์/10 มล.) |
ครั้งละ 10-20 มล. วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน |
Gaviscon |
Sodium alginate 500 มก./10 มล. + Sodium bicarbonate 213 มก./10 มล. + Calcium carbonate 325 มก./10 มล. (9 มิลลิอิควิวาเลนต์/10 มล.) |
ครั้งละ 10-20 มล. วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน |
Belcid Gerd, Gaviscon Dual action |
Sodium alginate 1,000 มก./10 มล. + Potassium bicarbonate 200 มก./10 มล. (2 มิลลิอิควิวาเลนต์/10 มล.) |
ครั้งละ 5-10 มล. วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน |
Gaviscon Advance |
หมายเหตุ: 1 มล. เท่ากับ 1 ซีซี, 5 มล. เท่ากับ 1 ช้อนชา, 15 มล. เท่ากับ 1 ช้อนโต๊ะ
2. ไซเมทิโคน (simethicone) เป็นสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ช่วยให้ฟองแก๊สในทางเดินอาหารรวมตัวกันและกำจัดออกได้ง่ายขึ้น14 ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ตัวอย่างยาที่มีจำหน่ายในท้องตลาดแสดงในตาราง
ชื่อยาและส่วนประกอบ |
วิธีใช้ (ฉลากยา) |
ตัวอย่างชื่อการค้า |
Aluminium hydroxide 960 มก./15 มล. + Magnesium hydroxide 330 มก./15 มล. + Simethicone 60 มก./15 มล. (61 มิลลิอิควิวาเลนต์/15 มล.) |
ครั้งละ 15 มล. วันละ 4–6 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน |
Antacil Gel, Belcid Forte |
Aluminium hydroxide 188.8 มก./เม็ด + Magnesium carbonate 136.2 มก./เม็ด + Simethicone 60 มก./เม็ด (11 มิลลิอิควิวาเลนต์/เม็ด) |
ครั้งละ 1-2 เม็ด หลังอาหาร เมื่อมีอาการ |
Kremil |
หมายเหตุ: 1 มล. เท่ากับ 1 ซีซี, 5 มล. เท่ากับ 1 ช้อนชา, 15 มล. เท่ากับ 1 ช้อนโต๊ะ
3. ไดไซโคลมีน (diclyclomine) เป็นยาระงับการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ (antispasmodics)12 ช่วยลดอาการปวดเกร็งบริเวณทางเดินอาหาร ตัวอย่างยาที่มีจำหน่ายในท้องตลาดแสดงในตาราง
ชื่อยาและส่วนประกอบ |
วิธีใช้ (ฉลากยา) |
ตัวอย่างชื่อการค้า |
Aluminium hydroxide 188.8 มก./เม็ด + Magnesium carbonate 136.2 มก./เม็ด + Simethicone 10 มก./เม็ด + Dicyclomine HCl 2.5 มก./เม็ด (11 มิลลิอิควิวาเลนต์/เม็ด) |
ครั้งละ 1-2 เม็ด หลังอาหาร เมื่อมีอาการ |
Kremil-S |
หมายเหตุ: 1 มล. เท่ากับ 1 ซีซี, 5 มล. เท่ากับ 1 ช้อนชา, 15 มล. เท่ากับ 1 ช้อนโต๊ะ
ข้อมูลการวิเคราะห์สูตรของยาลดกรดและยาลดกรดที่มีตัวยาเสริมข้างต้นเป็นเพียงการแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคกระเพาะอาหารแปรปรวนและโรคกรดไหลย้อนสามารถเลือกใช้ยาบรรเทาอาการได้เหมาะสมมากขึ้น อย่างไรก็ตามการใช้ยาลดกรดสูตรต่าง ๆ ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะตามคำแนะนำบนฉลากยาหรือคำแนะนำของเภสัชกรเพื่อเป็นการบรรเทาอาการเท่านั้น หากมีอาการของโรคที่รุนแรงมากขึ้นควรเข้ารับการตรวจรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป