Knowledge Article


ร้อยไหมกระชับผิวหน้า .. ข้อควรระวัง


รองศาสตราจารย์.ดร.ภญ.พิมลพรรณ พิทยานุกุล และ
ดร.ภญ.วรประภา ตรีศุภรัตน์
ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ภาพประกอบจาก : http://www.healioswoundsolutions.com/wp-content/uploads/2016/10/Korean-PDO-Thread-Lift.jpg
174,542 View,
Since 2017-04-02
Last active: 1h ago
https://tinyurl.com/2anuvb9z
Scan to read on mobile device
 
A - | A +
คนเราทุกคนอยากให้ตัวเองดูดีและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ จึงทำให้เทคโนโลยีด้านเสริมความงามพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง หนึ่งในเทคนิคเหล่านั้นที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ก็คือ เทคนิคการร้อยไหมด้วยไหมละลาย ดังนั้นเราจึงควรรู้ถึงข้อเท็จจริง ข้อดีและข้อเสียของเทคนิคดังกล่าวก่อนที่จะตัดสินใจเลือกรับบริการ



ภาพจาก : http://www.healioswoundsolutions.com/wp-content/uploads/2016/10/Korean-PDO-Thread-Lift.jpg

การร้อยไหม คือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ด้วยไหมละลายโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี หลักการของเทคนิคนี้ คือ การใช้ไหมเส้นเล็กจำนวนมากมาร้อยเป็นเครือข่าย บริเวณใต้ผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไปจะถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้สร้างคอลลาเจนใหม่มาพันรอบแนวเส้นไหม มีผลให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย

ชนิดของเส้นไหมและอายุของผู้ที่จะเข้ารับบริการ

ไหมชนิดที่นิยมใช้กันมากทำมาจากโพลีไดอ๊อกซาโนน (polydioxanone หรือ PDO) ซึ่งเป็นไหมที่นำมาใช้ในการทำศัลยกรรมเย็บเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งในและต่างประเทศ เส้นไหมจะถูกดูดซับโดยผิวหนังภายหลังจากการร้อยไหมผ่านไปหลายๆเดือน ในขณะเดียวกันเส้นไหมจะสามารถสลายตัวได้เองภายใน 8 เดือน และจะให้ประสิทธิผลต่อผิวหนังในระยะเวลาประมาณ 2 ปี

การร้อยไหม คือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ การร้อยไหมแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 39?50 ปี และผู้ที่มีปัญหาการบกพร่องของผิวโดยที่ไม่มีเนื้อเยื่อยุบตัวมากเกินไป ถ้าอายุมากและมีผิวหย่อนคล้อยประกอบกับมีการยุบตัวของผิว การร้อยไหมอย่างเดียวอาจช่วยไม่ได้ต้องใช้วิธีอย่างอื่นร่วมด้วย สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยยังไม่พบการหย่อนคล้อยจะได้ผลในแง่ของการปรับรูปหน้ามากกว่า โดยเฉพาะคนที่อายุต่ำกว่า 25 ปีลงไปไม่ควรทำเพราะไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไป

การร้อยไหม คือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ชนิดของเส้นไหมที่นิยมใช้ในประเทศเกาหลี มี 3 แบบ
  1. เส้นไหมเรียบ (Mono threads) เป็นเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือปุ่มเหรือเกลียว ส่วนใหญ่จะใช้ร้อยไหมชนิดนี้บริเวณคอ หน้าฝาก และใต้ตา เส้นไหมชนิดนี้จะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง
  2. เส้นไหมเกลียว (Screw threads) เป็นเส้นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน เส้นไหมชนิดนี้มีประโยชน์ช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่ง เส้นไหมเกลียวจะให้ผลแข็งแรงกว่าไหมเส้นเรียบ ส่วนใหญ่ไหมเกลียวเหมาะกับการยกชั้นผิวหนังที่หย่อนยาน
  3. เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads) เป็นเส้นไหมเส้นเดียวแต่มีเงี่ยงตลอดแนวไหม เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะด้านในชั้นผิวหนัง เงี่ยงมีประโยชน์ทำหน้าที่คล้ายโครงสร้างที่จะช่วยยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยาน คอลลาเจนจะถูกกระตุ้นให้มีการสร้างขึ้นใหม่รอบเส้นไหมและบริเวณเงี่ยง เส้นไหมชนิดนี้เหมาะกับการยกกระชับบริเวณคาง ปรับรูปหน้าให้เรียว
หลักการร้อยไหม ผลข้างเคียง และข้อควรระวังหลังเข้ารับริการ

ก่อนทำแพทย์จะทายาชาร่วมกับฉีดยาชาในบางตำแหน่งก่อนร้อยไหม หลังจากนั้น แพทย์จะนำเส้นไหมที่อยู่ตรงปลายเข็มเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้วิธีการร้อยเรียงเส้นไหมและแพทย์จะพิจารณาตามโครงหน้าของคนไข้เป็นหลักในเวลาเพียง 20?40 นาที ขณะทำจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย อาจพบรอยช้ำตามแนวรอยไหมได้บ้าง ร่วมกับอาการบวม แต่จะหายไปเองโดยไม่ต้องพักฟื้นภายใน 1?2 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนในช่วงประมาณ 2 เดือนหลังร้อยไหม และอาจจะเห็นผลต่อเนื่องนานประมาณ 1?2 ปี หลังจากนี้ก็ต้องมาทำการร้อยไหมใหม่อีกครั้ง เนื่องจากการร้อยไหมละลายไม่ได้เย็บไหมไว้ด้านในชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งอยู่ลึกกว่าผิวชั้นหนังแท้ จึงไม่อาจทำให้เกิดความแข็งแรงเทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า

ข้อควรระวังหลังจากทำร้อยไหม คือ ไม่ควรทำเลเซอร์หรือหัตถการใดๆกับใบหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ และไม่ควรนวดหน้าแรงๆในตำแหน่งที่ร้อยไหมประมาณ 2 เดือน นอกจากนี้ อาจจะมีการเกิดผิวหนังบวมแดง หรือ ตุ่มแดงตามแนวที่ร้อยไหมได้เนื่องจากเกิดการแพ้ไหมละลาย มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออันมาจากการใช้เข็มสอดเส้นไหมจำนวนมากเข้าไปที่ผิวหนัง เช่นเดียวกับการฉีดโบท๊อกซ์และฟิลเลอร์ และอาจทำให้เกิดรอยบุ๋มของผิวหนัง หรือ ผิวหนังทั้งสองข้างยกกระชับไม่เท่ากัน อีกทั้งคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นโดยไหมลละลาย อาจเป็นคอลลาเจนชนิดเดียวกับที่พบในแผลเป็นลักษณะคล้ายพังผืด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไหมละลายชนิด PDO จะได้การรับรองความปลอดภัยจาก อย. แต่นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยได้เปิดเผยว่า อย. ไม่อนุญาตหรือไม่รับรองวิธีการร้อยไหมเพื่อวัตถุประสงค์ของการกระชับผิว แต่อนุญาตให้ใช้ในการเย็บแผลเท่านั้น นอกจากนี้ การร้อยไหมเพื่อยกกระชับผิวยังไม่ได้รับการรับรองให้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศในทวีปยุโรป เพราะยังไม่มีผลการศึกษาทางการแพทย์ที่แน่ชัดถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว ดังนั้น ผู้ที่กำลังสนใจที่จะทำการร้อยไหมละลายเพื่อกระชับผิวหน้าควรพิจารณาไตร่ตรองให้ดีอีกครั้งถึงสิ่งที่จะได้มาว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ และไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีเสริมความงามวิธีใดก็ตาม แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง จิตใจแจ่มใส ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เป็นต้น ก็ช่วยให้คุณสวย สดใส ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย โดยไม่ต้องเสียเงินมาก ไม่ต้องเจ็บตัว ถึงจะเรียกได้ว่าสวยอย่างฉลาดตัวจริง

เอกสารอ้างอิง
  1. Cosmetic Surgery Today, Threadlift, 2012. (Access October 30, 2012, at http://www.cosmeticsurgerytoday.com/threadlift/)
  2. Dolphin Sutures, Information on Monofilament Polydioxanone Suture, 2012. (Access October 30, 2012, at http://www.dolphinsutures.com/information-on-polydioxanone.html)
  3. ไทยรัฐออนไลน์. แพทย์เผย อย. ไม่อนุญาตการร้อยไหมกระชับผิว. 30 ตุลาคม 2555. (Access October 30, 2012, at http://www.thairathco.th/content/edu/263402)
  4. American academy of aesthetic medicine: hands-on Korean thread lifting master course. http://cbbmed.com/newsview.php?title=Different_PDO_Threads_in_Thread_Lifting&id=19
  5. PDO Thread Lift. http://www.healioswoundsolutions.com/dermatology/pdo-thread-lift-tips-tricks-part-1/PDO Thread Lift.

Public Knowledge Articles



View all articles
-->

-

 ปรับขนาดอักษร 

+

Faculty of Pharmacy, Mahidol University.

447 Sri-Ayuthaya Road, Rajathevi, Bangkok 10400, THAILAND
Designed & Developed by Department of Information Technology, Faculty of Pharmacy, Mahidol University.
Copyright © 2013-2020
 

We use Cookies

This site uses cookies to personalise your experience and analyse site traffic. By Clicking ACCEPT or continuing to browse the site you are agreeing to our use of cookies.