Knowledge Article


คุณและโทษของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผสมสารต้านเชื้อแบคทีเรีย


รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ. พิมลพรรณ พิทยานุกุล
ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ภาพประกอบจาก : http://jusfabia.en.ecplaza.net/main.jpg
32,921 View,
Since 2016-09-07
Last active: 2m ago
https://tinyurl.com/2422hz4l
Scan to read on mobile device
 
A - | A +


จะเกิดอะไรขึ้นถ้าใช้สารต้านเชื้อแบคทีเรียบ่อยเกินความจำเป็น ?

สังคมปัจจุบัน ผู้คนจะตื่นตัวรักสุขภาพ และอาจจะมากเกินไปในบางราย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สบู่อาบน้ำล้างหน้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไป ผู้ผลิตได้ผสมสารต้านเชื้อแบคทีเรียลงในผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า ผู้บริโภคมากมายที่ต้องการความมั่นใจเกี่ยวกับความสะอาดหมดจรด จะนิยมซื้อหามาใช้ประจำตัวและประจำบ้าน เพื่อต้องการกำจัดการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียที่อาจมีอยู่รอบกายให้สิ้นซาก เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตนเองและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคติดเชื้อทั้งหลาย นักวิชาการทางการแพทย์ได้มีการถกเถียงถึงความเสี่ยงและอันตรายสำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผสมสารต้านเชื้อแบคทีเรียที่บ่อยและมากเกินความจำเป็น เพราะจะทำให้ร่างกายนอกจากจะไม่มีภูมิต้านทานต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว อาจมีผลทำให้เชื้อแบคทีเรียมีพัฒนาการที่แข็งแรง กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกกันว่า ‘Superbugs’ เฉกเช่น ‘ซุปเปอร์แมน’ อันอาจทำให้ยาปฏิชีวนะที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันรักษาไม่ได้ผล



เชื้อแบคทีเรีย มีทั้งชนิดให้คุณและโทษ รู้หรือไม่ ?

เชื้อจุลินทรีย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบคทีเรีย มีทั้งชนิดที่มีคุณและมีโทษต่อร่างกาย อย่างเช่นภายในลำไส้ จะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ประจำ และจะคอยช่วยร่างกายกินเชื้อแบคทีเรียชนิดที่แปลกปลอมเข้าร่างกายไม่ให้ลุกลามจนกลายเป็นโรค สำหรับผู้ที่กินยาปฏิชีวนะบ่อยๆ ยาจะไปทำลายเชื้อแบคทีเรียทุกชนิดให้หมดไป ร่างกายจะเกิดการดื้อยา และต้องใช้ยาชนิดที่แรงขึ้นทุกครั้งมิฉะนั้นจะไม่สามารถรักษาโรคได้ อีกกรณีที่เห็นการพัฒนาการของเชื้อแบคทีเรียเป็น ‘Superbacteria’ คือในโรงพยาบาล จะพบว่าเชื้อที่พบในโรงพยาบาลจะดุร้ายและแข็งแรงมาก เพราะโรงพยาบาลจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นประจำ นักวิชาการทั่วโลกกำลังเป็นห่วงว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะขยายวงกว้างมาถึงสังคมในบ้านหากผู้คนในสังคมยังใช้สินค้าทำความสะอาดผสมสารต้านเชื้อแบคทีเรียในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ สารต้านเชื้อแบคทีเรียจะถูกผสมผสานลงในผลิตภัณฑ์เกือบทุกชนิด แม้กระทั่งน้ำยาซักผ้า ล้างจาน ขัดพื้น ล้างรถ รวมถึงของเล่นเด็ก ผู้บริโภคหลายคนอาจเกิดความมั่นใจถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ปลอดภัยจากเชื้อแบคทีเรีย นักวิชาการกำลังเป็นห่วงว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะทำให้ผู้บริโภคตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแบคทีเรียดื้อและทนต่อสารต้านเชื้อแบคทีเรียตัวเดิมๆที่ใช้กันเป็นประจำ และอาจดื้อต่อยาปฏิชีวนะด้วยซ้ำไป

เชื้อแบคทีเรีย เป็นเซลขนาดเล็กมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถพบได้บนพื้นผิวทั่วไปในทุกส่วนของร่ายกาย ทั้งผิวสัมผัสภายในและผิวภายนอกร่างกาย เช่น เยื่อบุลำไส้ และผิวหนัง แบคทีเรียบางชนิดก่อให้เกิดโรคร้ายแรง แต่บางชนิดจะให้คุณต่อร่างกาย ในความเป็นจริงเชื้อแบคทีเรียชนิดที่อาศัยอยู่ในร่างกายคนเราจะช่วยทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากโรคร้ายโดยการช่วยกินเชื้อโรคที่แปลกปลอมเข้าร่ายกาย ด้วยวิธีการธรรมชาตินี้ทำให้เชื้อที่แปลกปลอมเข้าร่ายกายไม่สามารถขยายจำนวนได้ ช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ แต่ถ้าคนเราต้องใช้สารต้านเชื้อแบคทีเรียหรือยาปฏิชีวนะเป็นประจำ ยาเหล่านี้ไม่อาจจำแนกเชื้อแบคทีเรียชนิดเป็นคุณหรือชนิดเป็นโรคได้ จะทำลายไปหมด ในที่สุดเชื้อแบคทีเรียที่แข็งแรงจากการพัฒนาสายพันธุ์ จะอยู่รอดในร่างกายเราไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกร่างกาย

หากใช้สารต้านเชื้อแบคทีเรียเป็นประจำ เราจะได้ "ซุปเปอร์แบคทีเรีย" ?

สารต้านเชื้อแบคทีเรียที่นิยมใช้ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสินค้าอุปโภคทั้งหลายในครัวเรือนคือ ไตรโครแซน (Triclosan) จะพบทั้งในผลิตภัณฑ์ล้างหน้า สบู่เหลวอาบน้ำ โลชั่นทาผิว และอื่นๆ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ในกรุงบอสตัน สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ผู้บริโภคมักจะคิดว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อเหล่านี้เป็นประจำ จะช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้อยู่ในสภาวะปราศจากเชื้อ และจะปลอดภัยจากโรคร้ายมากที่สุด ความจริงแล้วหารู้ไม่ว่าผู้บริโภคเหล่านี้กำลังทำการเปลี่ยนแปลงให้เชื้อแบคทีเรียในสิ่งแวดล้อมมีพัฒนาการเป็น ‘superbacteria’ หากยังมีการใช้สารต้านเชื้อแบคทีเรียมากเกินไปในชีวิตประจำวัน

วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

ข้อเท็จจริงในการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อคือ การล้างมือด้วยสบู่ก้อนหรือสบู่เหลวชนิดธรรมดา และเมื่อต้องการจับต้องอาหารทุกชนิด ให้ล้างผลไม้และผักสดด้วยน้ำสะอาด ควรหลีกเลี่ยงไข่ดิบ และเนื้อสัตว์ที่ไม่สุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อสัตว์บด เช่น หมูสับ เพราะมักจะปนเปื้อนได้ง่ายและล้างทำความสะอาดไม่ได้ เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตในสภาวะอุณหภูมิห้องที่อุ่นๆ จึงควรเก็บอาหารในตู้เย็น การใช้สบู่ทั่วไปและน้ำยาล้างจานที่ปราศจากสารต้านเชื้อ "Triclosan" ก็สามารถลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียออกไปได้ เช่นเดียวกับการล้างมือล้างหน้าด้วยสบู่หรือผลิตภณฑ์ล้างหน้าทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องผสมสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ในทางตรงกันข้ามหากเราใช้ผลิตภัณฑ์ผสมสารต้านเชื้อแบคทีเรีย อาจจะทิ้งสารตกค้างของสารต้านเชื้อดังกล่าวบนผิวหนังหรือภาชนะ ทำให้มีพัฒนาการของสายพันธ์แบคทีเรียที่แข็งแรง และก่อให้เกิดโรคประหลาดกันในสังคมที่รักษายาก

ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อแบคทีเรียเหมาะกับผู้บริโภคกลุ่มไหน ?

คนป่วยที่มีร่างกายอ่อนแอ มีภูมิคุ้มกันต่ำ คนชรา ผู้ที่เป็นโรคติดเชื้อ และอยู่ระหว่างการรักษา สมควรที่จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยจากเชื้อจุลินทรีย์ จึงเหมาะสมที่จะดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ผสมสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ส่วนคนทั่วไปที่ไม่มีปัญหาสุขภาพ ควรดูแลรักษาความสะอาดทั่วไป การชำระล้างด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดธรรมดาอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือครัวเรือนก็เพียงพอแล้ว เราจะไม่เป็นคนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาเชื้อแบคทีเรียสายพันธุใหม่ที่แข็งแรงดุร้ายให้สังคมรุ่นลูกหลานต้องปวดหัว

เอกสารอ้างอิง
  1. http://www.anapsid.org/superbugs.html
  2. http://www.fda.gov/ForConsumers/ConsumerUpdates/ucm378393.htm
  3. http://www.webmd.com/a-to-z-guides/features/antibacterial-soap-do-you-need-it
  4. https://www.sharecare.com/health/superbugs/article/antibiotic-resistant-superbug-in-your-home

Public Knowledge Articles



View all articles
-->

-

 ปรับขนาดอักษร 

+

Faculty of Pharmacy, Mahidol University.

447 Sri-Ayuthaya Road, Rajathevi, Bangkok 10400, THAILAND
Designed & Developed by Department of Information Technology, Faculty of Pharmacy, Mahidol University.
Copyright © 2013-2020
 

We use Cookies

This site uses cookies to personalise your experience and analyse site traffic. By Clicking ACCEPT or continuing to browse the site you are agreeing to our use of cookies.