CA vs Non-CA based therapy ลดความดันผู้ป่วย CAD
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน ธันวาคม ปี 2547 -- อ่านแล้ว 9,972 ครั้ง
กลยุทธ์การรักษาโรคความดันโลหิตสูงที่เป็น combined therapy ที่ใช้ calcium antagonist เป็นยาพื้นฐานหลัก ให้ผลการรักษาไม่แตกต่างกับเช่นเดียวกับที่ใช้ beta-blocker เป็นยาหลัก ในผู้ป่วย coronary artery disease (CAD)
ประสิทธิภาพการรักษายาลดความดันโลหิตในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวนั้นมีเพียงการวิเคราะห์แบบ subgroup analysis จากการศึกษาขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกับโรคความดันโลหิตสูง และ การรักษาด้วยยาในผู้ป่วยกลุ่มนี้มักเริ่มด้วยยาหลายตัวเพื่อลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ตามแนวทาง the sixth report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation, and Treatment of High Blood Pressure (JNC VI)
calcium antgonist (CA), verapamil,เคยมีรายงานลดความเสี่ยงในการศึกษาเกี่ยวกับ acute CAD ลดความดันโลหิตและปกป้องอวัยวะได้ดีเมื่อให้ร่วมกับยากลุ่ม Angiotensin Converting Enzyme (ACE) inhibitor อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย CAD Carl J Pepineและคณะ ผู้ทำการศึกษา the International Verapamil-Trandolapril Study (INVEST) ในผู้ป่วย CAD ที่มีความดันโลหิตสูงอายุ 50 ปี ขึ้นไป เปรียบเทียบประสิทธิภาพ verapamil SR-Trandolapril based strategies เป็น calcium antagonist strategies (CAS) และ กลยุทธ์มาตรฐาน atenolol-hydrochlorothiazide based strategies (Non-CAS) ระยะเวลาการติดตามเฉลี่ย 2.7 ปี การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบ open label, randomized controlled trial (RCT)
ที่เวลา 24 เดือนของการศึกษาพบว่าทั้งกลุ่ม CAS และ Non-CAS ให้ผลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับ primary outcome (all-caused death,nonfatal myocardial infarction และ nonfatal stroke) รวมทั้ง secondary outcome บางตัวได้แก่ cardiovascular death, hospitalization และ blood pressure control
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบมากในกลุ่ม CAS ได้แก่ อาการท้องผูกและไอ ส่วนกลุ่ม Non-CAS จะเป็นอาการหายใจไม่สะดวก (dyspnea), เบาหัว (lightheadness), หัวใจเต้นช้า (symptomatic bradycardia) และ หายใจมีเสียงวีด (wheezing) ส่วนอาการปวดเค้น (angina) แม้ว่าจะไม่แตกต่างในทั้งสองกลุ่ม แต่พบความถี่อาการต่ำกว่าในกลุ่ม CAS (P=0.02) นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเกิดการตายหรือการรุดหน้าของโรคเบาหวานต่ำกว่ากลุ่ม Non-CAS ซึ่งอาจเป็นผลจาก trandolapril ขณะที่ hydrochlorothiazide เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานอย่างไม่มีนัยสำคัญเช่นกัน
clinical equivalence ระหว่าง กลุ่ม CAS และ Non-CAS ในการป้องกันการตาย, myocardial infarction และ stroke สนับสนุนการใช้ในผู้ป่วย CAD ที่ต้องการควบคุมความดันโลหิต การเลือกใช้กลยุทธ์ขึ้นกับ adverse experiences, ประวัติ heart failure, diabetes risk และการตัดสินใจของแพทย์ กลุ่มผู้ทำการศึกษาสรุปตอนท้าย