เข้ารับการผ่าตัดริดสีดวงทวารภายนอกมา และทานยา daflon 500, Ofloxacin 200mg และดื่มไฟเบอร์ชงน้ำช่วยขับถ่ายด้วยครับ หลังผ่าตัดมา 1-2 สัปดาห์อาการดีขึ้นเรื่อยๆ หายเจ็บและไม่ระคายเคืองตรงบริเวณทวารหนักแล้ว แต่ยังถ่ายได้ยากอยู่ แม้จะดื่มน้ำวัน 2-3 ลิตรและผักจำนวนมากก็ตาม จึงได้ลองเปลี่ยนเวลาดื่มไฟเบอร์ใหม่เป็นช่วงเช้าแทน (หลังเปลี่ยนเวลาดื่ม ได้ผลมากกว่าเดิม ถ่ายง่ายขึ้นมาก) แต่หลังจากนั้นเริ่มกลับมาเจ็บและคันที่แผลผ่าตัดอีกครั้งครับ เลยอยากทราบว่า ผงไฟเบอร์ชงดื่มมีผลต่อยาที่ทานในแต่ละวันมั้ยครับ รู้สึกเหมือนยาไม่ออกฤทธิ์ และควรดื่มไฟเบอร์เวลาใดจึงจะเหมาะสมที่สุดครับ

คำตอบ

ยาไฟเบอร์ชงดื่มใช้บรรเทาอาการท้องผูกชนิดเพิ่มปริมาณอุจจาระ เนื่องจากจะพองตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำ อาจขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร วิตามิน หรือยาบางชนิดได้ มีรายงานว่ายาไฟเบอร์มีผลลดการดูดซึมของยาบางชนิด เช่น ยาลดอาการซึมเศร้า ยาฮอร์โมน ยาลดไขมันในเลือด แม้จะยังไม่พบรายงานที่ชัดเจนว่ายาไฟเบอร์ชงดื่มจะมีผลลดการดูดซึมยา Daflon® และ ofloxacin หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานยาไฟเบอร์ห่างจากการรับประทานยาอื่นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ส่วนวิธีการชงยาไฟเบอร์ นำยาไฟเบอร์ละลายน้ำตามที่กำหนดบนเอกสารที่เป็นข้อมูลของผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปยาไฟเบอร์ขนาด 4-6 กรัม ควรผสมน้ำปริมาตร 240-480 มิลลิลิตรเพื่อลดการอุดตันของไฟเบอร์ในลำไส้ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน (8-10 แก้วต่อวัน) โดยสามารถรับประทานช่วงเวลาใดก็ได้ แต่ควรรับประทานในเวลาเดียวกันในแต่ละวัน ส่วนอาการเจ็บและคันบริเวณแผลที่เกิดขึ้นมาอีกครั้ง อาจเป็นผลจากการทำความสะอาดไม่ทั่วถึงภายหลังการขับถ่าย การเบ่งอุจจาระ หรืออาจเป็นสัญญาณของการกลับเป็นซ้ำ หากยังคงมีอาการอยู่และเป็นมากขึ้นแนะนำให้พบแพทย์อีกครั้ง Keywords: ริดสีดวงทวาร, ยาไฟเบอร์

Reference:
1. Fybogel Granules for Oral Suspension. Dublin: Reckitt Benckiser Healthcare (UK) Limited; 2015
2. Mucilin/Mucilin SF. Avaliable from: http://www.mims.com/thailand/drug/info/mucilin-mucilin%20sf
3. Carruthers SG, Hoffman BB, editors. Melmon and Morrelli’s clinical pharmacology: basic
principles in therapeutics. 4th ed. McGraw-Hill, 2000: 312-3.

Keywords:
-