ทำไมให้ transamine แล้วต้องให้ Vit k ให้ตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้หรอค่ะ

คำตอบ

Transamine (tranexamic acid) และ vitamin K มีข้อบ่งใช้ในการป้องกันและรักษาภาวะเลือดไหลไม่หยุด แต่มีกลไกการออกฤทธิ์ต่างกัน โดย tranexamic acid ออกฤทธิ์ยับยั้งการสลายตัวของไฟบริน (antifibrinolytic) โดยยาจะเข้าจับที่ fibrin biding site บน plasminogen แบบผันกลับได้ ทำให้โครงสร้างของไฟบรินคงตัว ส่วน vitamin K เป็น cofactor ที่จำเป็นในการสร้าง coagulation factor ได้แก่ factor II, VII, IX และ X การใช้ยาสองตัวร่วมกันจึงเป็นการช่วยเสริมฤทธิ์ในการต้านภาวะเลือดไหลไม่หยุดได้ การพิจารณาใช้ยาเพื่อป้องกันหรือรักษาภาวะเลือดไหลไม่หยุดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาเหตุของการเกิดเลือดไหลไม่หยุด ความรุนแรงของอาการ และ สภาวะของคนไข้ เป็นต้น ตามแนวทางการรักษาภาวะเลือดไหลไม่หยุด โดยทั่วไปสามารถใช้ยารักษาเพียงตัวใดตัวหนึ่งได้ไม่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันสองตัวหากสามารถควบคุมอาการได้ โดยมักเริ่มจากการรักษาด้วยวิธีดั้งเดิมที่เหมาะสมกับสาเหตุก่อน เช่นการให้วิตามินเค จากนั้นหากอาการยังไม่ดีขึ้นอาจพิจารณาวิธีการรักษาอื่นเพิ่มเติม Key words: tranexamic acid, vitamin K, mechanism of action, management, bleeding, guideline, กลไกการออกฤทธิ์, แนวทางการรักษา, ภาวะเลือดไหลไม่หยุด

Reference:
Crowther M.A. and Warkentin T.E. (2008) Bleeding risk and the management of bleeding complications in patients undergoing anticoagulant therapy: focus on new anticoagulant agents. Blood. 111(10): 4871-4879.
Pereira J. and Phan T. (2004) Management of Bleeding in Patients with Advanced Cancer. The Oncologist. 9: 561-570.
Vitamin K (systemic) [Online: http://www.drugs.com/mmx/vitamin-k-4.html] cited on August 21, 2013.
Tranexamic acid [Online: http://www.drugs.com/pro/tranexamic-acid-tablet.html] cited on August 21, 2013.

Keywords:
-