อยากทราบว้า panoxyl 5 หากใช้มาเป้นเวลานานประมาณ 6 เดือนติดต่อกันโดยทาก่อนนอนทุกคืนจะเป็นอะไรหรือไม่เนื่องจากเคยเป้นสิวเต็มหน้าแลั้วหาหมอก็ไม่หายเพื่อนจึงแนะนำให้ใช้และยาตัวนี้หากต้องการหยุดยาต้องทำอย่างไรเนื่องจากกลัวว่าจะกลับมาเป็นซำ้อีก และหาหยุดแล้วควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นสิวอีก และอยากทราบว่ายาตัวนี้ทำให้ตาบอดได้หรือไม่เนื่องจากทาทั้งหน้าเพราะเคยเป็นสิวเต็มหน้าและตอนนี้สิวหายแล้วแต่มีขึ้นบ้างแค่เม็ด สองเม็ดแต่ก็ทาทั้งหน้าเพราะกลัว่าสิวจะกลับมาอีกแต่ตอนนี้ไม่อยากใช้แล้วสุดท้ายอยากทราบว่ายาตัวนี้ทำให้ตาบอดได้หรือไม่

คำตอบ

Panoxyl หรือตัวยา benzoyl peroxide มีข้อบ่งใช้ในการรักษาสิว เนื่องจากสามารถยับยั้งเชื้อ สลายสิวอุดตัน และยังช่วยยับยั้งต่อมไขมัน ทำให้ช่วยลดความมันลงได้ด้วย วิธีการใช้คือทาบริเวณที่เป็นสิวทิ้งไว้ แล้วล้างออกด้วยน้ำ โดยต้องหลีกเลี่ยงการทาบริเวณปาก จมูกและตา เพราะอาจทำให้เกิดการแสบ ไหม้บริเวณนั้นเนื่องจากเป็นเยื่อบุที่บอบบางมาก ผลข้างเคียงของยาที่อาจพบได้คือ พบผิวแห้ง คัน ผื่นแดง เกิดการระคายเคืองและอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงสีผิวบริเวณที่ทาได้ เมื่อใช้ยานี้อาจต้องหลีกเลี่ยงการโดนแสง บางครั้งจึงมีการแนะนำให้ใช้ก่อนนอนเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนแสงนั่นเอง หากต้องการหยุดใช้ยานั้นก็สามารถทำได้เลย และสามารถกลับมาใช้ได้อีกเมื่อมีสิวขึ้นมาใหม่ เพราะยานี้ไม่จำเป็นต้องมีการปรับขนาดเมื่อต้องการหยุดยาแต่อย่างใด โดยสามารถนำมาทาบริเวณที่เกิดสิวมากเป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องใช้ทั่วใบหน้าก็ได้ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยอื่นๆที่อาจทำให้เกิดสิวได้ เช่น ความเครียด มลภาวะ การรับประทานอาหาร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะนั้นก็จะช่วยทำให้ลดการเกิดสิวได้ด้วย สำหรับการใช้ยานี้ ตั้งแต่มีการออกจำหน่ายสู่ตลาด ผู้ที่มีการใช้ยาอย่างถูกต้องนั้นไม่พบอุบัติการณ์การเกิดอาการตาบอดแต่อย่างใด สำหรับอาการข้างเคียงรุนแรงอื่นๆเช่น อาการเจ็บแน่นหน้าอก คันและระคายเคืองมาก สีผิวคล้ำมาก มีการบวมที่หน้า ริมฝีปาก หลอดลม ลิ้น หากพบอาการเหล่านี้จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ทันที ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่ใช้ยาตอนแรกๆ เนื่องจากเกิดการแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาได้

Reference:
1. Lacy CF, et al., eds., 2008-2009. Drug information handbook. 17th ed. Cleaveland: Lexi-Comp Inc.
2. Benzoyl peroxide. In: DRUGDEX® Evaluations. [Online]. 2010 Aug1. Available from: MICROMEDEX® Healthcare Series; 2010. [cited 2010 Aug1].

Keywords:
-