หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

กำลังจะกินยาเพื่อรักษาการติดเชื้อ H. Pyroli ในสูตรยาที่จะกินนอกจากมี Antibiotic แล้ว ยังมี Omeprazole ที่จะต้องกินร่วมด้วย แต่ได้ข้อมูลมาว่า Omeprazole มีผลในการทำให้เกิด Acute kidney injury / Interstitial Nephritis ได้ ที่กังวลคือคนไข้ที่จะต้องกินยานี้ มีค่า serum creatinine = 0.89 mg./dl eGFR = 70 (CKD stage 2) Creatinine clearance = 58 คนไข้ไม่มีโรคประจำตัวอื่น ไม่ได้กินยาโรคประจำตัวใดๆ สุขภาพแข็งแรงปกติดี เพศหญิง อายุ 52 ปี อยากรบกวนสอบถามว่า หากจะให้กินยาตามสูตรยาสำหรับรักษาการติดเชื้อ H. Pyroli ซึ่งจะต้องมีการกิน Omeprazole 20 mg. เช้า-เย็น (เท่ากับวันละ 40 mg.) ร่วมกับยาฆ่าเชื้อด้วย เป็นระยะเวลา 10 วันติดต่อกัน จะมีความน่ากังวลหรือความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหากับไตมากน้อยแค่ไหนครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ถามโดย ป๊อก เผยแพร่ตั้งแต่ 20/08/2025-07:54:23 -- 411 views
 

คำตอบ

มีข้อมูลว่ายาในกลุ่ม proton pump inhibitors (PPIs) เช่น omeprazole อาจสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะ acute interstitial nephritis (AIN) ได้ แต่กลไกการเกิดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด โดยเชื่อว่าเกิดผ่านกลไกทางภูมิคุ้มกันวิทยาชนิดที่ 4 (type IV hypersensitivity) ซึ่งจัดเป็นปฏิกิริยาเฉพาะบุคคล (idiosyncratic reaction) และไม่ขึ้นกับขนาดของยา (dose-independent) ทำให้เกิดการอักเสบในเนื้อเยื่อไตส่วน tubulointerstitium และเกิด AIN ตามมา หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและยังคงใช้ยาต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดการเกิดภาวะ acute kidney injury (AKI) หรือนำไปสู่การเกิดพังผืดและโรค chronic kidney disease (CKD) ตามมาได้ สำหรับอุบัติการณ์ของการเกิด PPI-induced AIN นั้น มีรายงานการเกิด 0.32 รายต่อ 1,000 person-years และ PPI-induced AKI มีรายงานการเกิด 13.49 รายต่อ 1,000 person-years โดยความเสี่ยงไม่แตกต่างกันตามข้อบ่งใช้ แต่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ได้รับยาเป็นหลัก โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อใช้ยาในระยะยาว ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงการใช้ยาต่อเนื่องนานกว่า 30-90 วันขึ้นไป แม้ว่าตามหลักเภสัชจลนศาสตร์แล้วไม่จำเป็นต้องปรับขนาด omeprazole ตามค่าการทำงานของไตเนื่องจากการกำจัดยาไม่ได้ขึ้นอยู่กับไตเป็นหลัก แต่ยังควรต้องติดตามการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีโรคไตอยู่เดิม โดยเฉพาะผู้ที่มี CKD stage 3a (eGFR < 60 mL/min/1.73 m2) เป็นต้นไป เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มี renal reserve ที่ต่ำ ทำให้มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางไตที่สูงขึ้น สรุปแล้วในกรณีของผู้ป่วยรายนี้ซึ่งใช้ยาในระยะสั้นเพียง 10 วันและมีค่าการทำงานของไตในระดับ CKD stage 2 จัดว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะดังกล่าวต่ำ แต่ควรให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังในสถานการณ์ต่อไปนี้เป็นพิเศษ ได้แก่ การใช้ยาอื่นที่มีพิษต่อไตร่วมด้วย หรือพบอาการที่น่าสงสัยต่อภาวะ AIN ระหว่างการใช้ยา เช่น มีไข้ ผื่น ปวดข้อ หรือค่า serum creatinine เพิ่มสูงขึ้นโดยไม่มีสาเหตุอื่นที่ชัดเจน อาจพิจารณาหยุดยา

Reference:
1. Moledina DG, Perazella MA. PPIs and kidney disease: from AIN to CKD. J Nephrol. 2016 Oct;29(5):611-6.
2. Kamal F, Khan MA, Molnar MZ, Howden CW. The Association Between Proton Pump Inhibitor Use with Acute Kidney Injury and Chronic Kidney Disease. J Clin Gastroenterol. 2018 Jul;52(6):468-476.
3. Lazarus B, Chen Y, Wilson FP, Sang Y, Chang AR, Coresh J, Grams ME. Proton Pump Inhibitor Use and the Risk of Chronic Kidney Disease. JAMA Intern Med. 2016 Feb;176(2):238-46.
4. Antoniou T, Macdonald EM, Hollands S, Gomes T, Mamdani MM, Garg AX, et al. Proton pump inhibitors and the risk of acute kidney injury in older patients: a population-based cohort study. CMAJ Open. 2015 Apr;3(2):E166-71.
5. Micromedex. Omeprazole. In: Micromedex [Internet]. [cited 2025 Aug 26]. Available from: https://www.micromedexsolutions.com/.
6. Sanchez-Alamo B, Cases-Corona C, Fernandez-Juarez G. Facing the Challenge of Drug-Induced Acute Interstitial Nephritis. Nephron. 2023;147(2):78-90.

Keywords:
omeprazole, acute kidney injury, acute interstitial nephritis





ทางเดินปัสสาวะ ทางเดินอาหาร

ดูคำถามทั้งหมด
 
ข่าวยาประจำสัปดาห์ล่าสุด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้