Rheumatoid Arthritis Incidence on the Rise in Women
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือน มิถุนายน ปี 2553 -- อ่านแล้ว 3,680 ครั้ง
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis; RA) เป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของภูมิคุ้มตนเองโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดข้อผิดรูป ประสิทธิภาพของการทำงานของข้อแย่ลง อัตราการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น รวมถึงอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะทุพพลภาพและพิการได้ในที่สุด จากการติดตามการรักษาภายใน 10-20 ปี พบว่าผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ประมาณร้อยละ 50 จะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 60-70 เมื่อเทียบกับคนปกติ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์นับสูงมากเช่นกัน
ข้อมูลจากสถิติพบว่าชาวอเมริกันจำนวนมากประมาณ 1-2 ล้านคนได้รับผลกระทบจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จากการศึกษาพบอุบัติการณ์ของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเพศหญิงมีเพิ่มมากขึ้น โดยคิดเป็นประมาณร้อยละ 2.5 ต่อปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 ถึง 2007 ในขณะที่อุบัติการณ์ของโรคในเพศชายลดลงร้อยละ 0.5 ซึ่งผู้ทำการวิจัยไม่พบสัดส่วนของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มอายุใดกลุ่มหนึ่ง
จากการศึกษาที่ผ่านมาได้มีคำอธิบายที่ค่อนข้างชัดเจนว่าการสูบบุหรี่สัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ในขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ของชาวอเมริกันเพศหญิงลดลงมากกว่าเพศชายอย่างมีนัยสำคัญ แต่สาเหตุที่อุบัติการณ์ของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเพศหญิงมีจำนวนเพิ่มขึ้น อาจเนื่องมาจากการรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบในขนาดต่ำ รวมถึงข้อมูลจากหลายการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการขาดวิตามินดีมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์โดยเฉพาะในเพศหญิงอีกด้วย
ข้อมูลที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Arthritis & Rheumatism ได้กล่าวถึงแนวทางการให้คำแนะนำแก่ประชาชนเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โดยเน้นในเรื่องของการควบคุมปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ได้แก่ การหยุดสูบบุหรี่ การรับประทานวิตามินดี รวมทั้งการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม