FDA Mandates New Safety Controls for Long-Acting Beta Agonists
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2553 -- อ่านแล้ว 1,956 ครั้ง
องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) ระบุผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลของการศึกษาทางคลินิกล่าสุดว่าการใช้ LABA มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในการทำให้อาการของโรคหืดแย่ลงซึ่งเป็นผลให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือใช้ท่อช่วยหายใจ (intubation) รวมถึงในบางครั้งพบว่าอัตราการเสียชีวิตของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ USFDA จึงทำการประกาศว่าบริษัทผู้ผลิตยาในกลุ่ม long-acting beta agonists (LABAs) จะต้องระบุข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์ว่า ผู้ป่วยโรคหืดต้องไม่ใช้ LABAs ในระยะยาว ยกเว้นในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมอาการของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการใช้ยาชนิดอื่นๆ เช่น inhaled corticosteroids นอกจากนี้ข้อมูลในฉลากยังต้องระบุว่าไม่สมควรใช้ยาในกลุ่ม LABAs เพียงอย่างเดียวในการรักษาโรคหืดในเด็กหรือผู้ใหญ่
จากการประกาศของ USFDA ในครั้งนี้ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับยาควบคู่กันระหว่างยาในกลุ่ม LABA และ corticosteroid นั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ corticosteroid เพียงอย่างเดียว หรือใช้ยาอื่นๆ ที่เป็นยาสำหรับควบคุมอาการ (controller medication) ที่ไม่มียากลุ่ม LABA ผสมอยู่แทน