Vit B ไม่ช่วยป้องกัน recurrent stroke
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2547 -- อ่านแล้ว 6,661 ครั้ง
การลดลงของระดับ homocysteine ในเลือดอันเนื่องมาจากการให้ vitamin B6 (pyridoxine) และ vitamin B12 (cobalamin) ไม่มีผลป้องกันการเกิด recurrent stroke
ระดับ homocysteine ในเลือดที่สูงขึ้นนั้นสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเกิด stroke และ coronary heart disease (CHD) โดยเชื่อว่า homocysteine ไปรบกวนกระบวนการ thrombolysis การทำงานของ endothelium ที่หลอดเลือดรวมทั้งเพิ่ม atherogenic factor ได้แก่ oxidized low-density lipoprotein และ hydrogen peroxide เป็นต้น มีรายงานการใช้ vitamin therapy (folic acid, pyridoxine และ cobalamin) สามารถลดระดับ homocysteine การใช้ vitamin เหล่านี้จึงอาจลดความเสี่ยงในการเกิด stroke และ CHD ได้
James F Toole และคณะได้ทำการศึกษาแบบ double-blinded randomized controlled trial ซึ่งเป็น multi-center study ใน 3 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และสก๊อตแลนด์ ในช่วงปี 1996 ถึงปี 2003 โดยทำการศึกษาในผู้ที่เป็น ischemic stroke 3,680 ราย โดยได้รับการรักษาทั่วไปควบคู่กับการได้รับ multivitamin ขนาดสูง (pyridoxine 25 mg, cobalamin 0.4 mg, folic acid 2.5 mg) หรือในขนาดต่ำ (pyridoxine 200 mcg, cobalamin 6 mcg, folic acid 2.5 mcg) ติดตามผลใน 2 ปีเกี่ยวกับการเกิด recurrent cerebral infarction, CHD และการตายจากโรคเหล่านี้
เมื่อสิ้นสุดการศึกษาพบว่าการให้ multivitamin ในทั้งขนาดสูงและขนาดต่ำไม่มีความแตกต่างกันในการลดการเกิดของโรคและอัตราการตายจากโรคดังกล่าว ในกลุ่มที่ได้ขนาดสูงสามารถลดระดับ homocysteine ได้มากกว่า 2 mcmol/L ซึ่งมากกว่าในกลุ่มที่ได้ขนาดต่ำ
ที่ระดับ homocysteine ที่ต่ำกว่าระดับโดยรวม 3 mcmol/L พบว่าในกลุ่มที่ได้ขนาดต่ำสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงในการเกิด stroke ร้อยละ 10 ,CHD ร้อยละ 26 และการตายร้อยละ 16 อย่างมีนัยสำคัญ ต่างจากกลุ่มที่ได้รับขนาดสูงไม่มีความแตกต่างในการลดความเสี่ยงใด ๆ เลยที่ระดับ homocysteine เดียวกัน