ประโยชน์ของ L-Thyroxine ต่อปัจจัยเสี่ยงของระบบหัวใจและหลอดเลือด,การทำงานของ endothelium และคุณภาพชีว
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือน มิถุนายน ปี 2550 -- อ่านแล้ว 4,722 ครั้ง
Subclinical Hypothyroidism(SCH) โดยทั่วไปเป็นภาวะที่พบได้ประมาณร้อยละ 6-17 ผู้ป่วยจะมีระดับของ TSH ในเลือดที่สูงกว่าค่าปกติโดยที่ระดับของ free T4(FT4) อยู่ในระดับปกติ จากหลายการศึกษาที่ผ่านมาอาจจะยังสรุปไม่ได้ว่า SCH สามารถเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และการรักษาด้วย L-Thyroxine จะสามารถทำให้อาการของผู้ป่วย SCH ดีขึ้นได้หรือไม่
จากการศึกษาแบบ randomized,double-blind,crossover ในผู้ป่วย SCH 100 คน อายุเฉลี่ยประมาณ 54 ปี ไม่มีประวัติเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจและหลอดเลือดโดย 50 คนได้รับ L-Thyroxine และอีก 50 คนได้รับ ยาหลอกเป็นเวลา 12 สัปดาห์ในแต่ละช่วงของการศึกษา หลังจากสิ้นสุดการศึกษาได้มีการวัดผลโดย primary endpoint คือ การวัดค่าของ brachial artery flow mediated dilatation(FMD) ซึ่งเป็นตัวที่ใช้บ่งบอกการทำงานของเยื่อบุผนังหลอดเลือด,ระดับ Total cholesteral (TC) และการประเมินคุณภาพชีวิตโดยใช้แบบสอบถาม
ผลการศึกษาพบว่า การรักษาด้วย L-Thyroxine มีผลลด Total cholesteral จาก 231.6 เป็น 220 mg/dl (p < 0.001), LDL-cholesteral จาก 142.9 เป็น 131.3 mg/dl (p < 0.05) และมีผลเพิ่ม FMD จากร้อยละ 4.2 เป็น 5.9 โดย p < 0.001และจากการวิเคราะห์ข้อมูลแบบหลายตัวแปรพบว่าการเพิ่มขึ้นของระดับ free T4(FT4) มีความสัมพันธ์กับการลดลงของ TC หรือ การเพิ่มขึ้นของ FMD จากการศึกษาสามารถสรุปได้ว่าการรักษา Subclinical Hypothyroidism ด้วย L-Thyroxine สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular risk factor) และทำให้อาการเหนื่อยของผู้ป่วย SCH ดีขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของระดับ free T4(FT4)