หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Hormone replacement therapy...ยังคงเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านมแม้หยุดใช้ยานานมากแล้ว

ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือน พฤศจิกายน ปี 2562 -- อ่านแล้ว 3,322 ครั้ง
 
ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น พันธุกรรม อายุที่หมดระดู ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สภาพการดำรงชีวิต สิ่งแวดล้อม อาหาร ยา ในกรณีที่เกี่ยวกับยานั้นเป็นที่ทราบกันว่าการได้รับยาฮอร์โมนทดแทน (hormone replacement therapy หรือ HRT) นั้นมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผลการศึกษาแบบ meta-analysis ในผู้หญิงวัยหมดระดูที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม 108,647 คน ให้การยืนยันถึงความสัมพันธ์ของยาฮอร์โมนทดแทนกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และยังพบอีกว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่แม้หยุดใช้ยานานกว่า 10 ปี ผลการศึกษาถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้

 ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วงที่ใช้ยาฮอร์โมนทดแทนชนิดที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย (systemic HRT) เพื่อทุเลาอาการจากการหมดระดู (vasomotor symptoms และอาการอื่น) ไม่ว่าจะเป็นยาชนิดรับประทานหรือชนิดที่ใช้ผ่านทางผิวหนังในรูปแบบใด และไม่ว่าจะเป็นเอสโตรเจนเดี่ยวหรือร่วมกับโพรเจสโตเจน (ซึ่งใช้ในกรณีที่ยังมีมดลูก) อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นเอสโตรเจนหรือโพรเจสโตเจนชนิดใด ล้วนมีความสัมพันธ์กับอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญ

 ยาฮอร์โมนทดแทนชนิดสูตรผสม (เอสโตรเจนร่วมกับโพรเจสโตเจน) มีความเสี่ยงมากกว่าชนิดเอสโตรเจนเดี่ยว

 การใช้เอสโตรเจนขนาดต่ำทางช่องคลอดเพื่อรักษาอาการเฉพาะที่ ไม่ว่าอยู่ในรูปยาครีม ยาเม็ด หรือวงแหวน ความเสี่ยงไม่ได้เพิ่มขึ้น

 การใช้ยาฮอร์โมนทดแทนชนิดที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกายนั้น ความเสี่ยงยังอยู่แม้หยุดใช้ยานานกว่า 10 ปี ดังนั้นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมจากการใช้ยาฮอร์โมนทดแทน โดยรวมทั้งหมดจึงมีมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในอดีต

 ความเสี่ยงไม่เพิ่มหรือเพิ่มเพียงเล็กน้อยหากใช้ยาฮอร์โมนทดแทนเป็นเวลาน้อยกว่า 1 ปี ไม่ว่ากำลังใช้อยู่หรือเคยใช้ในอดีต แต่ถ้าใช้ยานานกว่านี้ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นอย่างมากหากยิ่งใช้ยาเป็นเวลานานมาก

 ความเสี่ยงลดลงหากหยุดใช้ยาเมื่อเทียบกับการที่ยังคงใช้อยู่ แต่ความเสี่ยงไม่ได้หมดไปแม้จะหยุดใช้นานถึง 10 ปี โดยยังคงพบว่ามีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่เคยใช้เลย

 ไม่ว่าจะเริ่มต้นใช้ยาฮอร์โมนทดแทนที่ช่วงอายุ 40-50 ปี หรือ 50-60 ปี หากมีระยะเวลาที่ใช้ยานานพอ ๆ กันแล้ว พบโรคมะเร็งเต้านมที่อายุ 69 ปีในจำนวนรวมที่ใกล้เคียงกัน

ข้อมูลที่ได้จากผลการศึกษาดังกล่าวข้างต้น ทำให้หน่วยงาน Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA) ในสหราชอาณาจักรมีข้อแนะนำสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ดังนี้

o ควรให้ข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมก่อนที่จะเริ่มสั่งใช้ยาฮอร์โทนทดแทนให้กับผู้ป่วยรายใหม่ หรือก่อนที่จะสั่งใช้ยาในครั้งต่อไปสำหรับผู้ที่ใช้ยาอยู่แล้ว

o ควรสั่งใช้ยาฮอร์โทนทดแทนเฉพาะรายที่ต้องการบรรเทาอาการจากการหมดระดูที่รบกวนคุณภาพชีวิตเท่านั้น และทบทวนการสั่งใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมั่นใจว่าการสั่งใช้ยานั้นเหมาะสม โดยให้ใช้เป็นเวลาสั้นที่สุดและในขนาดต่ำสุด

o ย้ำเตือนให้ผู้ที่ใช้ยาฮอร์โมนทดแทนทั้งผู้ที่ใช้ปัจจุบันและอดีต ระมัดระวังถึงอาการแสดงของโรคมะเร็งเต้านม พร้อมทั้งสนับสนุนให้เข้ารับการตรวจคัดกรองโรคเมื่อถึงเวลา

อ้างอิงจาก:

(1) Hormone replacement therapy (HRT): further information on the known increased risk of breast cancer with HRT and its persistence after stopping. Drug Safety Update volume 13, issue 2: September 2019: 1; (2) Collaborative Group on Hormonal Factors in Breast Cancer. Type and timing of menopausal hormone therapy and breast cancer risk: individual participant meta-analysis of the worldwide epidemiological evidence. Lancet 2019;394:1159-68; (3) Harbeck N, Penault-Llorca F, Cortes J, Gnant M, Houssami N, Poortmans P, et al. Breast cancer. Nat Rev Dis Primers 2019. doi: 10.1038/s41572-019-0111-2.

คำค้นที่เกี่ยวข้อง:
โรคมะเร็งเต้านม ยาฮอร์โมนทดแทน hormone replacement therapy HRT systemic HRT vasomotor symptoms เอสโตรเจน โพรเจสโตเจน
 
คลิปความรู้เรื่องยา

EP.4 ยาอันตรายควบคุม (Controlled dangerous drugs)

ดูคลิปทั้งหมด

ข่าวยาล่าสุด
    ดูข่าวยาทั้งหมด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้