Erythromycin...คำเตือนที่เข้มงวดถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับ (1) อันตรายต่อหัวใจ (2) กระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารก และ (3) ภาวะเลือดไหลหากใช้ร่วมกับ rivaroxaban
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือน ธันวาคม ปี 2563 -- อ่านแล้ว 3,921 ครั้ง
Erythromycin เป็นยาในกลุ่ม macrolides ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ไวต่อยาทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในยุโรปได้มีการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยของ erythromycin ทั้งข้อมูลที่รวบรวมผลไม่พึงประสงค์ของยานี้เองและข้อมูลที่ตีพิมพ์เพิ่มเติม ผลจากการทบทวนข้อมูลทำให้หน่วยงาน Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA) ในสหราชอาณาจักร ได้เพิ่มความเข้มงวดในคำเตือนถึงความเสี่ยงของยาต่อการเกิดอันตรายต่อหัวใจ กระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารก และภาวะเลือดไหลหากใช้ร่วมกับ rivaroxaban
อันตรายต่อหัวใจ
Erythromycin ทำให้เกิด QT interval prolongation ที่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ได้มีข้อห้ามใช้อยู่แล้วในผู้ที่มี QT interval prolongation, ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำหรือภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำที่ควบคุมไม่ได้, ภาวะหัวใจเต้นช้าที่มีนัยสำคัญทางคลินิก และการใช้ร่วมกับยาอื่นที่อาจทำให้เกิด QT interval prolongation นอกจากนี้ให้ระมัดระวังการใช้ในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด prolonged cardiac repolarization และผู้ที่มีโรคหลอดเลือดโคโรนารี ซึ่งจากการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ของทางยุโรป ได้ยืนยันความเสี่ยงเกี่ยวกับอันตรายต่อหัวใจที่สัมพันธ์กับการใช้ erythromycin เกี่ยวกับเรื่องนี้ในสหราชอาณาจักรได้มีการปรับปรุงเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ erythromycin และ clarithromycin โดยให้เข้มงวดในคำเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อหัวใจทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก พร้อมทั้งให้ข้อมูลและข้อแนะนำแก่บุคลากรทางการแพทย์สรุปได้ดังนี้
การใช้ erythromycin (และรวมถึง clarithromycin ด้วย) มีความเสี่ยงต่อการการเกิด QT interval prolongation และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ไม่ควรให้ erythromycin แก่ผู้ป่วยที่มี cardiac events เหล่านี้ ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติ QT interval prolongation (ไม่ว่าจะเป็นแต่กำเนิดหรือเกิดภายหลัง) หรือมี ventricular arrhythmia รวมถึง torsades de pointes และผู้ที่มีภาวะโพแทสเซียมหรือแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกิดจาก QT interval prolongation)
ควรพิจารณาประโยชน์ของยาเทียบกับความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อหัวใจ เมื่อต้องสั่งใช้ erythromycin (และรวมถึง clarithromycin ด้วย) ให้กับผู้ป่วยโรคหัวใจที่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว, ผู้ที่มี conduction disturbances หรือมีภาวะหัวใจเต้นช้าที่แสดงอาการ, ผู้ที่ใช้ยาอื่นที่ทำให้เกิด QT interval prolongation ได้
ระมัดระวังการใช้ในผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุอาจไวต่อยาที่มีผลต่อ QT interval
ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยถึงความผิดปกติต่อหัวใจที่อาจเกิดขึ้นซึ่งต้องรีบเข้ารับการรักษา
กระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารก
ความเสี่ยงต่อการเกิดกระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตัน (hypertrophic pyloric stenosis) ในทารกนั้นมีกล่าวไว้แล้วในเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ erythromycin ซึ่งจากการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ของทางยุโรป พบความสัมพันธ์ของการใช้ erythromycin กับการเกิดความผิดปกติดังกล่าว ซึ่งพบมากที่สุดหากใช้ยาในช่วง 14 วันหลังคลอด โดยพบได้ 2.6% (95% CI 1.5-4.2) ซึ่งสูงกว่าที่พบโดยปกติทั่วไป 2-3 เท่า (โดยปกติการเกิดกระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารกพบได้ 0.1-0.2% หรือบางแหล่งข้อมูลระบุ 0.2-0.5%) ด้วยเหตุนี้ผู้สั่งใช้ยาควรประเมินประโยชน์จากการใช้ยา ซึ่งยาดังกล่าวใช้เพื่อรักษาโรคที่เป็นรุนแรง เช่น การติดเชื้อก่อโรคไอกรน (pertussis) และการติดเชื้อคลาไมเดีย (chlamydia) เทียบกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และควรแนะนำพ่อแม่ให้ปรึกษาแพทย์ผู้ให้การรักษาหากทารกใช้ยาแล้วเกิดการอาเจียนหรือกระสับกระส่ายเมื่อดื่มนม
ภาวะเลือดไหลหากใช้ร่วมกับ rivaroxaban
การใช้ rivaroxaban (เป็น direct-acting oral anticoagulant) เช่นเดียวกับ oral anticoagulant ชนิดอื่นที่ต้องระมัดระวังการเกิดภาวะเลือดไหล (bleeding) เมื่อใช้ร่วมกับยายับยั้ง CYP3A4 และ/หรือยายับยั้ง P-glycoprotein ซึ่ง erythromycin และ clarithromycin ยับยั้งได้ทั้ง CYP3A4 และ P-glycoprotein จึงเพิ่มระดับยา rivaroxaban ได้ ในเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ rivaroxaban ได้มีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว และจากการทบทวนข้อมูลของทางยุโรปเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการเพิ่ม rivaroxaban ลงในรายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยาต่อกันกับ erythromycin ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดไหล
อ้างอิงจาก:
(1) Erythromycin: caution required due to cardiac risks (QT interval prolongation); drug interaction with rivaroxaban. Drug Safety Update volume 14, issue 5: December 2020: 2; (2) Erythromycin: update on known risk of infantile hypertrophic pyloric stenosis. Drug Safety Update volume 14, issue 5: December 2020: 3.