หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Erythromycin...คำเตือนที่เข้มงวดถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับ (1) อันตรายต่อหัวใจ (2) กระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารก และ (3) ภาวะเลือดไหลหากใช้ร่วมกับ rivaroxaban

ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือน ธันวาคม ปี 2563 -- อ่านแล้ว 3,507 ครั้ง
 
Erythromycin เป็นยาในกลุ่ม macrolides ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ไวต่อยาทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในยุโรปได้มีการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยของ erythromycin ทั้งข้อมูลที่รวบรวมผลไม่พึงประสงค์ของยานี้เองและข้อมูลที่ตีพิมพ์เพิ่มเติม ผลจากการทบทวนข้อมูลทำให้หน่วยงาน Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA) ในสหราชอาณาจักร ได้เพิ่มความเข้มงวดในคำเตือนถึงความเสี่ยงของยาต่อการเกิดอันตรายต่อหัวใจ กระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารก และภาวะเลือดไหลหากใช้ร่วมกับ rivaroxaban

อันตรายต่อหัวใจ

Erythromycin ทำให้เกิด QT interval prolongation ที่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ได้มีข้อห้ามใช้อยู่แล้วในผู้ที่มี QT interval prolongation, ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำหรือภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำที่ควบคุมไม่ได้, ภาวะหัวใจเต้นช้าที่มีนัยสำคัญทางคลินิก และการใช้ร่วมกับยาอื่นที่อาจทำให้เกิด QT interval prolongation นอกจากนี้ให้ระมัดระวังการใช้ในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด prolonged cardiac repolarization และผู้ที่มีโรคหลอดเลือดโคโรนารี ซึ่งจากการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ของทางยุโรป ได้ยืนยันความเสี่ยงเกี่ยวกับอันตรายต่อหัวใจที่สัมพันธ์กับการใช้ erythromycin เกี่ยวกับเรื่องนี้ในสหราชอาณาจักรได้มีการปรับปรุงเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ erythromycin และ clarithromycin โดยให้เข้มงวดในคำเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อหัวใจทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก พร้อมทั้งให้ข้อมูลและข้อแนะนำแก่บุคลากรทางการแพทย์สรุปได้ดังนี้

 การใช้ erythromycin (และรวมถึง clarithromycin ด้วย) มีความเสี่ยงต่อการการเกิด QT interval prolongation และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

 ไม่ควรให้ erythromycin แก่ผู้ป่วยที่มี cardiac events เหล่านี้ ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติ QT interval prolongation (ไม่ว่าจะเป็นแต่กำเนิดหรือเกิดภายหลัง) หรือมี ventricular arrhythmia รวมถึง torsades de pointes และผู้ที่มีภาวะโพแทสเซียมหรือแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกิดจาก QT interval prolongation)

 ควรพิจารณาประโยชน์ของยาเทียบกับความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อหัวใจ เมื่อต้องสั่งใช้ erythromycin (และรวมถึง clarithromycin ด้วย) ให้กับผู้ป่วยโรคหัวใจที่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว, ผู้ที่มี conduction disturbances หรือมีภาวะหัวใจเต้นช้าที่แสดงอาการ, ผู้ที่ใช้ยาอื่นที่ทำให้เกิด QT interval prolongation ได้

 ระมัดระวังการใช้ในผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุอาจไวต่อยาที่มีผลต่อ QT interval

 ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยถึงความผิดปกติต่อหัวใจที่อาจเกิดขึ้นซึ่งต้องรีบเข้ารับการรักษา

กระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารก

ความเสี่ยงต่อการเกิดกระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตัน (hypertrophic pyloric stenosis) ในทารกนั้นมีกล่าวไว้แล้วในเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ erythromycin ซึ่งจากการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ของทางยุโรป พบความสัมพันธ์ของการใช้ erythromycin กับการเกิดความผิดปกติดังกล่าว ซึ่งพบมากที่สุดหากใช้ยาในช่วง 14 วันหลังคลอด โดยพบได้ 2.6% (95% CI 1.5-4.2) ซึ่งสูงกว่าที่พบโดยปกติทั่วไป 2-3 เท่า (โดยปกติการเกิดกระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตันในทารกพบได้ 0.1-0.2% หรือบางแหล่งข้อมูลระบุ 0.2-0.5%) ด้วยเหตุนี้ผู้สั่งใช้ยาควรประเมินประโยชน์จากการใช้ยา ซึ่งยาดังกล่าวใช้เพื่อรักษาโรคที่เป็นรุนแรง เช่น การติดเชื้อก่อโรคไอกรน (pertussis) และการติดเชื้อคลาไมเดีย (chlamydia) เทียบกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และควรแนะนำพ่อแม่ให้ปรึกษาแพทย์ผู้ให้การรักษาหากทารกใช้ยาแล้วเกิดการอาเจียนหรือกระสับกระส่ายเมื่อดื่มนม

ภาวะเลือดไหลหากใช้ร่วมกับ rivaroxaban

การใช้ rivaroxaban (เป็น direct-acting oral anticoagulant) เช่นเดียวกับ oral anticoagulant ชนิดอื่นที่ต้องระมัดระวังการเกิดภาวะเลือดไหล (bleeding) เมื่อใช้ร่วมกับยายับยั้ง CYP3A4 และ/หรือยายับยั้ง P-glycoprotein ซึ่ง erythromycin และ clarithromycin ยับยั้งได้ทั้ง CYP3A4 และ P-glycoprotein จึงเพิ่มระดับยา rivaroxaban ได้ ในเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ rivaroxaban ได้มีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว และจากการทบทวนข้อมูลของทางยุโรปเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการเพิ่ม rivaroxaban ลงในรายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยาต่อกันกับ erythromycin ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดไหล

อ้างอิงจาก:

(1) Erythromycin: caution required due to cardiac risks (QT interval prolongation); drug interaction with rivaroxaban. Drug Safety Update volume 14, issue 5: December 2020: 2; (2) Erythromycin: update on known risk of infantile hypertrophic pyloric stenosis. Drug Safety Update volume 14, issue 5: December 2020: 3.
 
ข่าวยาล่าสุด
    ดูข่าวยาทั้งหมด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้