หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Lurbinectedin…alkylating agent ชนิดใหม่สำหรับรักษาโรคมะเร็งปอด (ชนิด SCLC)

ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือน มิถุนายน ปี 2563 -- อ่านแล้ว 2,788 ครั้ง
 
โรคมะเร็งปอดเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โรคมะเร็งปอดชนิดที่พบมากคือ non-small-cell lung cancer (NSCLC) พบประมาณ 80-85% และชนิด small-cell lung cancer (SCLC) พบประมาณ 15-17% ซึ่งชนิด SCLC เจริญและแพร่กระจายได้เร็วกว่า NSCLC ระยะโรคใน SCLC แบ่งเป็นระยะจำกัดขนาด (limited stage) และระยะแพร่กระจาย (extensive stage) ซึ่งผู้ป่วยราว 70% ตรวจพบโรคเมื่ออยู่ระยะแพร่กระจายแล้ว การที่โรคมะเร็งเจริญได้เร็วจะตอบสนองดีต่อการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (chemotherapy) และการฉายรังสี อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่กลับมาเป็นซ้ำ การรักษาอันดับแรกใช้ cisplatin หรือ carboplatin ร่วมกับ etoposide อาจให้การฉายรังสีร่วมด้วย มีอัตราการตอบสนองโดยรวม 60-80% แต่มีการกลับมาเป็นซ้ำสูง ในผู้ที่กลับมาเป็นซ้ำมีเพียงบางรายเท่านั้นที่ให้การตอบสนองต่อ topotecan ซึ่งใช้เป็น second-line treatment ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการนำยาที่ออกฤทธิ์เกี่ยวข้องกับการปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถต่อต้านหรือป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง (immunotherapy) มาใช้ โดยเฉพาะ immune checkpoint inhibitors เช่น nivolumab, pembrolizumab, durvalumab โดยใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด แม้จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้บ้างแต่การรักษาหลักยังคงเป็นยาเคมีบำบัด และเมื่อเร็ว ๆ นี้ lurbinectedin ได้รับอนุมัติแบบเร่งด่วนแล้วในบางประเทศเพื่อใช้รักษา SCLC ในผู้ใหญ่ที่โรคควบคุมไม่ได้ด้วย platinum-based chemotherapy

Lurbinectedin เป็นอนุพันธ์ ecteinascidin และเป็น alkylating agent ออกฤทธิ์ทำให้ double-strand DNA เสียหาย และยังขัดขวางการทำงานของ RNA-polymerase-II ผลิตในรูปยาผง (lyophilized powder) ปริมาณ 4 มิลลิกรัม บรรจุในไวอัลสำหรับการฉีดครั้งเดียว (single-dose vial) ขนาดที่แนะนำคือ 3.2 มิลลิกรัม/ตารางเมตรผิวกาย ทุก 21 วัน โดยให้ยาเข้าหลอดเลือดดำแบบอย่างช้า ๆ (intravenous infusion) นาน 60 นาที การที่ยานี้ได้รับอนุมัติในข้อบ่งใช้ข้างต้นเนื่องจากมีการศึกษาทางคลินิกระยะที่ 2 ซึ่งเป็น multicenter, open-label, multi-cohort trial มาสนับสนุน โดยศึกษาในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ SCLC ควบคุมไม่ได้ด้วย platinum-based chemotherapy จำนวน 105 คน พบว่า lurbinectedin ให้อัตราการตอบสนองโดยรวม (overall response rate; ORR ซึ่งมีเฉพาะ partial response) ที่ประเมินโดยผู้ทำการศึกษา (investigator assessment) เท่ากับ 35% และค่ากลางของระยะเวลาที่ให้ผลตอบสนองต่อยา 5.3 เดือน ส่วนผลการประเมินโดยคณะกรรมการอิสระ (independent review committee) ค่า ORR เท่ากับ 30% และค่ากลางของระยะเวลาที่ให้ผลตอบสนองต่อยา 5.1 เดือน ผลไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยที่สุด (≥20%) ได้แก่ คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร, อ่อนล้า, โลหิตจาง, ปวดกล้ามเนื้อ, ท้องผูกหรือท้องเดิน, อาการหายใจลำบาก, ไอ, มีการลดลงของค่าเหล่านี้ ได้แก่ เม็ดเลือดขาว, ลิมโฟไซต์, นิวโทรฟิล, เกล็ดเลือด, อัลบูมิน, โซเดียม และแมกนีเซียม และมีการเพิ่มขึ้นของค่าเหล่านี้ ได้แก่ ครีเอทินีน, alanine aminotransferase, aspartate aminotransferase และกลูโคส

อ้างอิงจาก:

(1) Zepzelca (lurbinectedin) for injection. Highlights of prescribing information. Reference ID: 4624945, revised: 06/2020. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2020/213702s000lbl.pdf; (2) Kauffmann-Guerrero D, Huber RM. Orphan drugs in development for the treatment of small-cell lung cancer: emerging data on lurbinectedin. Lung Cancer 2020;11:27-31; (3) Yang S, Zhang Z, Wang Q. Emerging therapies for small cell lung cancer. J Hematol Oncol 2019. doi:10.1186/s13045-019-0736-3
 
ข่าวยาล่าสุด
    ดูข่าวยาทั้งหมด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้