Magnesium sulfate...อาจส่งผลเสียต่อกระดูกของทารกแรกเกิดหากมารดาใช้ยาเป็นเวลานานหรือซ้ำหลายครั้งช่วงตั้งครรภ์
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน มิถุนายน ปี 2562 -- อ่านแล้ว 21,743 ครั้ง
แมกนีเซียมเป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับกระบวนการต่างๆ ในร่างกาย ทั้งการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด กล้ามเนื้อ และระบบประสาท ในร่างกายมีการเก็บสะสมที่กระดูก กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ หากในซีรัมมีแมกนีเซียมในระดับสูงจะแสดงฤทธิ์ขยายหลอดเลือด คลายกล้ามเนื้อและสงบประสาท ในทางการแพทย์ใช้ magnesium sulfate เพื่อควบคุมอาการชักในรายที่เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ (preeclampsia) รุนแรง ใช้รักษาภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (hypomagnesemia) ภาวะมดลูกหดเกร็ง (uterine tetany) ตลอดจนใช้ป้องกันระบบประสาทของทารกในครรภ์ (fetal neuroprotection) ในรายที่มีการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด (preterm labor) อีกทั้งยังใช้รักษาโรคหรือความผิดปกติอื่นอีกหลายอย่าง หากมารดาได้รับยานี้ขณะตั้งครรภ์ในปริมาณสูงและเป็นเวลานานอาจเป็นอันตรายต่อทารกแรกเกิด ก่อนหน้านี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีคำเตือนในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีรายงานว่ามารดาที่ได้รับ magnesium sulfate ขณะตั้งครรภ์ในปริมาณสูงและเป็นเวลานาน ทำให้เกิดผลเสียต่อกระดูกของทารกแรกเกิด โดยเกิดกระดูกหัก 4 ราย และอีก 35 รายเกิดภาวะกระดูกบาง (osteopenia) หรือกระดูกมีความผิดปกติอย่างอื่น ในจำนวนนี้บางรายเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำและภาวะแมกนีเซียมในเลือดสูง
แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านผลเสียต่อกระดูกในทารกแรกเกิดที่กล่าวข้างต้นจะพบเมื่อมารดาใช้ magnesium sulfate ขนาดสูงและใช้เป็นเวลานานขณะตั้งครรภ์ แต่ควรระวังด้วยเช่นเดียวกันแม้ใช้ยาขนาดต่ำกว่าที่เคยรายงานในอดีตหรือใช้ไม่ถึง 5 วัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียสมดุลอิเล็กโทรไลต์ในทารกแรกเกิดได้ เช่นเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำในทารกแรกเกิดที่มารดาได้รับยาหลายครั้งช่วงตั้งครรภ์ในขนาดยาสะสมประมาณ 100 กรัม จากข้อมูลดังกล่าวทำให้เมื่อเร็วๆ นี้ในสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการให้มีการปรับปรุงเอกสารที่เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ยา magnesium sulfate โดยต้องมีคำเตือนถึงผลเสียต่อกระดูกของทารกแรกเกิดที่อาจพบได้หากมารดาใช้ยานี้ในช่วงตั้งครรภ์เป็นเวลานานกว่า 5-7 วัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ได้มีข้อมูลและข้อแนะนำดังนี้
- การให้ magnesium sulfate แก่หญิงตั้งครรภ์เป็นเวลานานกว่า 5-7 วัน อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดผลไม่พึงประสงค์กับทารกในครรภ์ ได้แก่ ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ปริมาณแร่ธาตุในกระดูกลดลง (skeletal demineralization) ภาวะกระดูกบาง และผลไม่พึงประสงค์อื่นที่เกิดกับกระดูก
- ในกรณีที่มารดาได้รับ magnesium sulfate เป็นเวลานาน (นานกว่า 24 ชั่วโมง) หรือได้รับซ้ำหลายครั้ง ควรเฝ้าระวังทารกแรกเกิดถึงความผิดปกติเกี่ยวกับระดับแคลเซียมและแมกนีเซียม ตลอดจนผลไม่พึงประสงค์ต่อกระดูก
อ้างอิงจาก:
(1) Magnesium sulfate: risk of skeletal adverse effects in the neonate following prolonged or repeated use in pregnancy. Drug Safety Update volume 12, issue 10: May 2019:3; (2) Cox AG, Marshall SA, Palmer KR, Wallace EM. Current and emerging pharmacotherapy for emergency management of preeclampsia. Expert Opin Pharmacother 2019;20:701-12; (3) Brookfield KF, Vinson A. Magnesium sulfate use for fetal neuroprotection. Curr Opin Obstet Gynecol 2019;31:110-15; (4) RxList - The Internet Drug Index for prescription drug information. https://www.rxlist.com/magnesium-sulfate-drug.htm
คำค้นที่เกี่ยวข้อง:
แมกนีเซียม
magnesium sulfate
ภาวะครรภ์เป็นพิษ
preeclampsia
ภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ
hypomagnesemia
ภาวะมดลูกหดเกร็ง
uterine tetany
ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
ภาวะแมกนีเซียมในเลือดสูง
skeletal demineralization
ภาวะกระดูกบาง
osteopenia
การเจ็บ