หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Antiretrovirals…ปรับคำเตือนเกี่ยวกับ lipodystrophy

ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือน มกราคม ปี 2559 -- อ่านแล้ว 10,529 ครั้ง
 

Antiretrovirals ใช้รักษาการติดเชื้อรีโทรไวรัส (retrovirus) ยาที่ใช้กันมากในปัจจุบันคือยาต้านเอชไอวี (anti-HIV/AIDS drugs) antiretrovirals มีหลายกลุ่มซึ่งมีโครงสร้างและกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน คำเตือนของ antiretrovirals เกี่ยวกับภาวะไขมันกระจายตัวผิดปกติ (lipodystrophy) นั้นมีมานานแล้ว โดยเฉพาะกลุ่ม nucleoside/nucleotide reverse transcriptase inhibitors (NRTIs) และ protease inhibitors (PIs) ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับ “antiretroviral therapy-induced lipodystrophy” มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังเช่นเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ป่วยที่ใช้ antiretrovirals (zidovudine 300 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง + tenofovir 300 มิลลิกรัม วันละครั้ง + lopinavir/ritonavir 400/100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง) แล้วเกิดภาวะไขมันกระจายตัวผิดปกติ (ดูรูป) ร่วมกับมีภาวะ impaired fasting glucose ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงและโคเลสเตอรอลในเลือดสูง

การเกิดภาวะไขมันกระจายตัวผิดปกตินั้นจะเกี่ยวข้องกับ antiretrovirals (NRTIs และ PIs) ทั้งกลุ่มหรือไม่? เมื่อไม่นานมานี้หน่วยงาน MHRA (the Medicines and Healthcare Products Regulatory Agency) ซึ่งเป็น executive agency ในสังกัดของ Department of Health ของสหราชอาณาจักร (UK) ได้ทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับภาวะไขมันกระจายตัวผิดปกติที่เกิดจากการใช้ antiretrovirals ทั้งภาวะเนื้อเยื่อไขมันฝ่อ (lipoatrophy) การพอกของไขมันในบริเวณต่างๆ (lipoaccumulation) และการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัว พบว่าภาวะเนื้อเยื่อไขมันฝ่อมีความสัมพันธ์กับการการลดลงของปริมาณไมโทคอนเดรียในเซลล์ไขมันและมีความสัมพันธ์เฉพาะกับยาที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดพิษต่อไมโทคอนเดรีย (high risk of mitochondrial toxicity) เช่น zidovudine, stavudine และอาจรวมถึง didanosine แต่ไม่พบเมื่อใช้ NRTIs ชนิดอื่น นอกจากนี้ยาอื่นอาจเพิ่มปริมาณไขมันอีกด้วย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการควบคุมโรคได้ดี รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต (lifestyle) ด้วยก็เป็นได้ ส่วนการพอกของไขมันในบริเวณต่างๆ นั้นไม่พบข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์กับการใช้ antiretrovirals สำหรับการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและการมี metabolic change (เช่น มีกลูโคสและไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น) อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการใช้ anti-HIV drugs ไม่ว่าจะเป็นชนิดใด ภายหลังจากการทบทวนข้อมูลแล้ว หน่วยงานดังกล่าวข้างต้นได้มีข้อแนะนำให้ยกเลิกคำเตือนเกี่ยวกับ body-fat change (lipodystrophy) ในเอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์ (product information) ของ antiretrovirals ทั้งหลาย ยกเว้นเฉพาะ zidovudine, stavudine และ didanosine ที่ยังคงคำเตือนไว้

อ้างอิงจาก:

(1) Antiretroviral medicines: updated advice on body-fat changes and lactic acidosis. Drug Safety Update, volume 9 issue 5, December 2015:4; (2) Guaraldi G, Stentarelli C, Zona S, Santoro A. HIV-associated lipodystrophy: impact of antiretroviral therapy. Drugs 2013;73:1431-50; (3) Behera V, Randive M, Sundaray S, Murty MS. Antiretroviral therapy-induced lipodystrophy. BMJ Case Rep 2015. doi:10.1136/bcr-2014-207090

คำค้นที่เกี่ยวข้อง:
antiretroviral retrovirus anti-HIV/AIDS drug lipodystrophy nucleoside/nucleotide reverse transcriptase inhibitor NRTI protease inhibitor PI antiretroviral therapy-induced lipodystrophy zidovudine tenofovir lopinavir ritonavir impaired fa
 
คลิปความรู้เรื่องยา

EP.2 เกลือแร่สำหรับท้องเสีย ORS (Oral Rehydration Salts)

ดูคลิปทั้งหมด

ข่าวยาล่าสุด
    ดูข่าวยาทั้งหมด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้