“ปวดหัว ตัวร้อน มีไข้สูงขณะตั้งครรภ์ มียาแก้อักเสบอยู่ที่บ้านรับประทานได้ไหมค่ะ?” “ ต้องให้นมลูก แต่ไม่สบายมากทำยังไงดีค่ะ”คำถามเหล่านี้แสดงให้เห็นโดยทั่วกันว่า มารดาเมื่อตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่นั้นให้ความสำคัญและมีความระมัดระวังต่อการใช้ยาค่อนข้างมาก เนื่องจากยาจำนวนไม่น้อยสามารถผ่านสายรก หรือละลายน้ำแล้วขับออกทางน้ำนม ซึ่งอาจส่งผลผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือต่อทารกที่ดื่มนมแม่อยู่ได้ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ยาทุกตัวที่สามารถผ่านสายรก หรือขับออกทางน้ำนมและส่งผลต่อทารก ดังนั้น การเลือกใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรจึงมีความซับซ้อน ยาที่ร้านยามักจ่ายเพื่อบรรเทาอาการไม่สบายและค่อนข้างมีปัญหาในการเลือกใช้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรที่พบได้บ่อยคือ“ยาปฏิชีวนะ”
ยาปฏิชีวนะ หรือที่ชาวบ้านคุ้นเคยกันว่า “ยาฆ่าเชื้อ”หรือ “ยาแก้อักเสบ” เป็นยาที่ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียจากภาวะติดเชื้อของร่างกาย ยาปฏิชีวนะที่เป็นยารับประทานมีอยู่หลายกลุ่ม ดังตารางต่อไปนี้
ยาปฏิชีวนะ |
ตั้งครรภ์ |
ให้นมบุตร |
กลุ่ม Penicillinได้แก่ Penicillin V, Ampicillin, Becampicillin, Amoxicillin, Amoxicillin/clavulanate potassium, Cloxacillin, Dicloxacillin |
ผ่านสายรกได้ แต่ไม่พบว่าก่อให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในสัตว์ทดลองและในมนุษย์ หญิงตั้งครรภ์ในทุกระยะการตั้งครรภ์สามารถใช้ยากลุ่มนี้ได้ |
ขับออกทางน้ำนมปริมาณน้อยและยังไม่พบผลเสียต่อทารก |
กลุ่ม Cephalosporinได้แก่ Cephalexin, Cefadroxil, Cefaclor, Cefuroxime axetil, Cefpodoxime proxetil, Cefdinir, Cefixime |
ผ่านสายรกได้ ไม่พบว่าก่อให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในสัตว์ทดลองและในมนุษย์ และไม่พบข้อมูลการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดทารกวิรูป หญิงตั้งครรภ์ในทุกระยะการตั้งครรภ์สามารถใช้ยากลุ่มนี้ได้ |
ขับออกทางน้ำนมปริมาณน้อย และยังไม่พบผลเสียต่อทารก ยกเว้นยา Cefdinir, Cefixime ไม่พบข้อมูลความปลอดภัย โปรดระวังการใช้ |
กลุ่ม Macrolideได้แก่ Erythromycin, Roxithromycin, Spiramycin, Midecamycin, Clarithromycin, Azithromycin |
Erythromycin และ Azithromycin พบว่ามีความปลอดภัยเนื่องจาก ผ่าน รกได้น้อย ไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง ไม่มีรายงานการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดทารก-วิรูป ส่วนยาที่เหลือในกลุ่มนี้ไม่แนะนำให้ใช้เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ทารกได้ |
พบยาสะสมในน้ำนม มีข้อมูลความปลอดภัยในมนุษย์จำกัด โปรดใช้ด้วยความระวัง ถ้าจำเป็นต้องใช้ ควรเลือกใช้ Erythromycin และAzithromycin เท่านั้น |
กลุ่ม Fluoroquinololeได้แก่ Norfloxacin ,Ofloxacin, Ciprofloxacin, Levofloxacin, Moxifloxacin |
ผ่านสายรกได้เนื่องจากยามีโมเลกุลขนาดเล็ก พบความผิดปกติจากการศึกษาในตัวอ่อน และในหญิงตั้งครรภ์ได้บ้าง ไม่แนะนำให้ใช้โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์(เดือนที่ 1-3) |
มีขนาดโมเลกุลเล็กจึงอาจผ่านน้ำนมได้ และยาอาจส่งผลข้างเคียง เช่น ท้องเสีย และเกิดพิษได้ในทารก ไม่แนะนำให้ใช้ |
กลุ่ม Tetracycline ได้แก่ Tetracycline, Doxycycline, Minocycline |
ผ่านสายรกได้ หากใช้ในไตรมาสที่ 2-3 (เดือนที่ 4-9) ยาจะสะสมในฟันและกระดูกของทารก ทำให้ฟันของเด็กมีสีเหลืองหรือสีน้ำตาลไปตลอดชีวิต มีกระดูกและสมองเจริญผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดทารกวิรูป ไม่แนะนำให้ใช้ |
อาจใช้ได้ในหญิงให้นมบุตรเนื่องจากยาขับออกผ่านทางน้ำนมน้อยมาก โปรดใช้ด้วยความระมัดระวัง |
กลุ่ม อื่นๆ |
||
Choramphenicol |
ผ่านสายรกได้ การใช้ในหญิงตั้งครรภ์พบว่าทารกอาจมีอาการตัวเขียว อ่อนปวกเปียก จากภาวะเกรย์ซินโดรม ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ |
ยาขับออกทางน้ำนมได้ ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงให้นมบุตร |
Polymyxin B |
มีข้อมูลการศึกษาในสัตว์ทดลองและในมนุษย์จำกัด จึงไม่แนะนำให้ใช้ อย่างไรก็ตามหากใช้เป็นยาใช้ภายนอกอาจสามารถใช้ได้ |
ยังไม่พบรายงานการใช้ยานี้กับหญิงให้นมบุตร |
Colistin |
พบความผิดปกติจากการศึกษาในสัตว์ทดลอง แต่ไม่พบการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวอ่อนในมนุษย์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ |
มีข้อมูลความปลอดภัย ในมนุษย์จำกัด ไม่แนะนำให้ใช้ |
Clindamycin |
ผ่านสายรกได้ แต่ไม่พบความผิดปกติของตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ในจำนวนที่มากพอจะสรุปได้ว่าเกิดจากยา |
ขับออกทางน้ำนม และยังไม่พบผลเสียต่อทารก โปรดใช้ด้วยความระมัดระวัง |
Co-trimoxazole
|
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 3 (เดือนที่ 7-9) ยาสามารถผ่านรกทำให้ทารกเกิดมาตัวเหลือง (kerniterus) |
ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงให้นมบุตร |
Metronidazole |
ผ่านสายรกได้ แต่ไม่พบความผิดปกติของตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในไตรมาสแรก(เดือนที่ 1-3)ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากยาจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการแต่กำเนิดของทารก |
ขับออกทางน้ำนม โปรดใช้ด้วยความระมัดระวัง ซึ่งหากใช้ยาแบบทานครั้งเดียว หลังทานยาแนะนำให้หยุดให้นมบุตรประมาณ 12-24 ชั่วโมง |
โดยสรุปแล้วยากลุ่ม Penicillinและ Cephalosporin ค่อนข้างมีความปลอดภัยเมื่อใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ถ้ามีประวัติแพ้ยากลุ่มดังกล่าว ควรเปลี่ยนเป็นยากลุ่ม Clindamycin หรือ Macrolide เช่น Erythromycin และ Azithromycin ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของโรค อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยในการใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง
เอกสารอ้างอิง