A New Agent for Lowering Lipid Levels?

แม้ว่าการใช้ยากลุ่ม statin จะช่วยลดอัตราการเกิดเหตุการณ์โรคหลอดเลือดหัวใจได้ดีในผู้ป่วยบางกลุ่ม แต่ผู้ป่วยอีกหลายรายยังคงอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดเหตุการณ์โรคหลอดเลือดหัวใจ

ข้อมูลจาก multicenter, double-blind, randomized trial (สนับสนุนการศึกษาโดยบริษัทผู้ผลิตยา) ที่ทำการประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา thyroid analogue ชื่อ eprotirome ในผู้ป่วย 184 รายที่มีระดับ LDL ในเลือด 116 mg/dL ทั้งที่รับประทานยา simvastatin ( 40 mg/day) หรือ atorvastatin ( 20 mg/day) ในขนาดที่คงที่แล้ว ผู้ป่วยแต่ละรายจะถูกสุ่มให้ได้รับ placebo หรือ ยา 1 ใน 3 แบบ คือ eprotirome (25, 50 หรือ 100 µg/day) เพิ่มเติมจากการใช้ยา statin ที่มีอยู่แล้ว เป็นเวลา 12 สัปดาห์ โดยมี primary outcome คือ การเปลี่ยนแปลงของระดับ LDL ส่วน secondary outcome คือ การเปลี่ยนแปลงระดับ apolipoprotein B, triglyceride และ Lp(a) lipoprotein รวมเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่อหัวใจ กระดูก และต่อมธัยรอยด์

ผลที่ได้พบว่า mean reductionของ LDL จากการใช้ placebo และ eprotiromeในขนาด 25, 50 และ 100 µg/day คือ 7%, 22% และ 28% ตามลำดับ ซึ่งการลดลงนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับการลดลงของระดับ lipoprotein นอกจากนี้พบว่าระดับ triiodothyronine และ thyrotropin ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งไม่พบการรายงานเกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจหรือกระดูกเช่นกัน แต่พบการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของระดับ alanine aminotransferase

ผลที่ได้จากการศึกษาขนาดเล็กนี้แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มยา eprotirome เข้าไปในการรักษาด้วยยากลุ่ม statin นั้นช่วยพัฒนาระดับ LDL apolipoprotein B, triglycerides และ Lp(a) lipoprotein แบบขึ้นกับขนาดยา (dose-dependent fashion) รวมถึงยังไม่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับหัวใจด้วย แต่พบการเพิ่มขึ้นของระดับเอนไซม์ตับเพียงเล็กน้อย ซึ่งผลที่ได้นี้นับว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่การพัฒนาที่เกิดขึ้นนี้จะสามารถแปลผลได้ว่ามีการพัฒนาของผลทางคลินิกได้หรือไม่นั้น จำเป็นที่จะต้องค้นหาคำตอบต่อไป