Loading…

การฉีดวัคซีนไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก ผู้สูงอายุทำไมต้องฉีดวัคซีน ?

การฉีดวัคซีนไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก ผู้สูงอายุทำไมต้องฉีดวัคซีน ?

อาจารย์ ดร. ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆินภาควิชาเภสัชวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล

2,265 ครั้ง เมื่อ 1 วันที่แล้ว
2024-10-12

ด้วยอายุขัยของประชากรทั่วโลกที่ยาวขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะมีประชากรกว่า 2.1 พันล้านคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีภายในปี 2050 การทำความเข้าใจถึงการเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกันตามอายุจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ความท้าทายจากการเสื่อมของภูมิคุ้มกันตามอายุ และบทบาทของวัคซีนในการรักษาสุขภาพให้ดีตลอดชีวิตจึงจำเป็น

ระบบภูมิคุ้มกันเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนของอวัยวะ เซลล์ และกระบวนการต่างๆ ที่ทำหน้าที่ป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อและสารแปลกปลอม ระบบนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนสำคัญคือ:

1. ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (Innate Immunity) – ระบบป้องกันแรกของร่างกายที่ไม่จำเพาะเจาะจงและตอบสนองทันที ประกอบด้วยอุปสรรคทางกายภาพและเคมี

2. ภูมิคุ้มกันแบบปรับตัว (Adaptive Immunity) – ระบบป้องกันที่เฉพาะเจาะจงและถูกกระตุ้นเมื่อมีการโจมตีจากเชื้อโรค เป็นระบบที่มีการจดจำและตอบสนองต่อการติดเชื้อที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การเสื่อมของภูมิคุ้มกันตามอายุ

เมื่ออายุมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มเสื่อมลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อการติดเชื้อและการพัฒนาภูมิคุ้มกันจากวัคซีนลดลง การเสื่อมนี้เกิดขึ้นทั้งในระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดและภูมิคุ้มกันแบบปรับตัว

- เซลล์ T: จำนวนเซลล์ T ที่ไม่เคยสัมผัสเชื้อ (naive T cells) จะลดลง ขณะที่เซลล์ T ที่มีอายุมากจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการจดจำและตอบสนองต่อแอนติเจนใหม่ๆ ลดลง

- เซลล์ B: การผลิตเซลล์ B ใหม่ลดลง แต่มีการสะสมของเซลล์ B ที่มีความจำ (memory B cells) ซึ่งทำให้การตอบสนองต่อแอนติเจนใหม่ไม่ดีเท่าที่ควร

การอักเสบเรื้อรัง (Inflamm-aging)

ภาวะการอักเสบเรื้อรังระดับต่ำที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุ มีส่วนทำให้เกิดการเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกันและการพัฒนาของโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด และโรคมะเร็ง

นวัตกรรมการผลิตวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุ

เพื่อช่วยให้ร่างกายมีการตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีขึ้น จึงมีการคิดค้นการใช้สารเสริมฤทธิ์ (adjuvant) ในวัคซีน เมื่อนํามาใช้กับวัคซีนจึงเป็นแอนติเจนที่ช่วยให้วัคซีนกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ดี ทําให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันจําเพาะที่มากขึ้น และอยู่ในร่างกายได้นานขึ้น

บทบาทของวัคซีนในการป้องกันโรคในผู้สูงอายุ

แม้ระบบภูมิคุ้มกันจะเสื่อมลงตามอายุ แต่วัคซีนยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรค ปัจจุบันในไทยมีวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุที่มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ (adjuvant vaccine) ได้แก่ 

1. วัคซีนป้องกันงูสวัด (Herpes Zoster) ชนิด Recombinant Zoster Vaccine (RZV) ที่มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ AS01B 

2. วัคซีน RSV ชนิดAdjuvanted RSVPreF3 Vaccine มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ AS01E

ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันทั้งเซลล์ T และการสร้างแอนติบอดี วัคซีนแบบที่มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์นี้แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคในผู้สูงอายุ

การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

วัคซีนที่มีการเสริมฤทธิ์ด้วย AS01 ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันทั้งในด้านของเซลล์ T และแอนติบอดี โดยการศึกษาชี้ให้เห็นว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถสร้างการตอบสนองที่แข็งแกร่งและยาวนาน ช่วยป้องกันการติดเชื้อในระยะยาว แม้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากโรคหรือได้รับยากดภูมิคุ้มกันอื่นๆ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคเบาหวาน

 

วัคซีนงูสวัด ชนิด Recombinant Zoster Vaccine (RZV)

ประสิทธิภาพของวัคซีนงูสวัด (RZV) ในผู้สูงอายุ

จากการศึกษาทางคลินิกที่ครอบคลุมประชากรกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป พบว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถป้องกันการเกิดงูสวัดได้ 97.2 % อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราการป้องกันสูงถึง 91.3% ในผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป การศึกษานี้ยังชี้ให้เห็นว่าวัคซีนสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากงูสวัด เช่น อาการปวดประสาทหลังเป็นงูสวัด (Postherpetic Neuralgia) ได้ถึง 88.8% ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการป้องกันโรคและบรรเทาความเจ็บปวดในผู้สูงอายุ

การป้องกันการติดเชื้อและลดภาวะแทรกซ้อน

นอกจากนี้ วัคซีนชนิดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลดอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับงูสวัด เช่น การอักเสบของเนื้อเยื่อประสาทและการสูญเสียการมองเห็น นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยมีอัตราการลดความเสี่ยงสูงถึง 77.8% ในกลุ่มที่มีภาวะแทรกซ้อนจากโรค

ตามคำแนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยปี 2566 เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด (Herpes Zoster Vaccine - HZV) สำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ วัคซีนนี้มีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส Varicella Zoster ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคงูสวัด โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือผู้อายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งมักมีความเสี่ยงต่อโรคนี้มากขึ้น

วัคซีนชนิด Recombinant Zoster Vaccine (RZV: Shingrix) ที่มีส่วนผสมของสารเสริม (Adjuvant) อย่าง AS01B ได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ทั้งในรูปแบบของเซลล์ T และการผลิตแอนติบอดี นอกจากนี้ยังแสดงประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัดและภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการปวดปลายประสาทหลังเป็นงูสวัด (Postherpetic Neuralgia - PHN) ได้ดี แม้ในผู้ป่วยที่มีอายุมากหรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

การฉีดวัคซีนงูสวัดจึงเป็นวิธีที่แนะนำโดยแพทย์สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเพื่อป้องกันการเกิดโรคงูสวัดและผลกระทบจากโรคที่อาจมีความรุนแรงและต่อเนื่องนาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน

หากคุณเคยรับวัคซีนป้องกันงูสวัดชนิดอื่นมาก่อน เช่น วัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (Live-attenuated zoster vaccine หรือ Zostavax) และต้องการเปลี่ยนมาฉีดวัคซีนชนิด Recombinant Subunit Zoster Vaccine (Shingrix) ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า แพทย์แนะนำว่าคุณสามารถรับวัคซีน Shingrix ได้เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเคยได้รับวัคซีน Zostavax มาก่อนหรือไม่ก็ตาม เพราะ Shingrix มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคสูงถึง 97.2% ในการป้องกันการเกิดงูสวัด และยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนอย่างอาการปวดตามแนวเส้นประสาทหลังการติดเชื้อถึง 91.2%​

สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ก่อนหน้านี้ ควรทิ้งระยะเวลาห่างจากการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เดือน ก่อนที่จะรับวัคซีน Shingrix ทั้งสองเข็ม เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ หากคุณเคยเป็นโรคงูสวัดมาก่อน คุณยังสามารถฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัดได้หลังจากหายจากโรคอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

 

วัคซีนอาร์เอสวี (RSV vaccine) ชนิด Adjuvanted RSVPreF3 Vaccine มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ AS01E

ประสิทธิภาพของวัคซีน RSV ชนิด Adjuvanted RSVPreF3 Vaccine ในผู้สูงอายุ

Adjuvanted RSVPreF3 Vaccine (RSV: Arexvy) ใช้สำหรับกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง (Lower Respiratory Tract Disease; LRTD) ที่มีสาเหตุมาจาก Respiratory Syncytial Virus (RSV) ในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ถึง 59 ปี ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจาก RSV

จากการศึกษาในกลุ่มประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ในฤดูกาลที่ 1 ติดตามเป็นระยะเวลาการศึกษาทั้งสิ้น 6.7 เดือน พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน RSV-LRTD คือ 82.6% ประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน Severe RSV-LRTD คือ 94.1% และประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวอย่างน้อย 1 โรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจวายเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคตับเรื้อรัง คือ 94.6%

และจากการติดตามประสิทธิภาพของวัคซีนในระยะเวลาการศึกษาทั้งสิ้น 17.8 เดือน หรือ 2 ฤดูกาล พบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน RSV-LRTD คือ 74.5% ประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน Severe RSV-LRTD คือ 82.7% และประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 1 โรค คือ 74.5% 

ปัจจุบันวัคซีน RSV ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความจำเป็นสำหรับการฉีดวัคซีนซ้ำหลังจากเข็มแรก และสำหรับผู้สูงอายุที่เคยติด RSV นั้นสามารถฉีดวัคซีน RSV ได้ เมื่อหายจากโรค RSV  

 

การป้องกันการติดเชื้อและลดภาวะแทรกซ้อน

ประสิทธิภาพของวัคซีนในผู้สูงอายุมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยลดการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามารถในการป้องกันตัวเองของระบบภูมิคุ้มกันที่เสื่อมตามอายุ วัคซีนที่มีการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเช่น Adjuvant Vaccine AS01 เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาที่สำคัญในการรักษาสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพ

Photo by: Freepik.com

แหล่งอ้างอิง/ที่มา
  1. PIDST, สารเสริมฤทธิ์ โดย ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร, B000-001.indd (pidst.or.th) (accessed 9 Sep 2024).
  2. Lal H, et al. N Engl J Med 2015;372:2087-96.
  3. Cunningham AL, et al. N Engl J Med 2016;75:1019-32.
  4. Bastidas A, et al. JAMA 2019;322:123-33.
  5. Dagnew AF, et al. Lancet Infect Dis 2019;19:988-1000.
  6. IDAT. Recommended Adult and Elderly Immunization Schedule 2023.
  7. Papi A et al. N Engl J Med 2023; 388:595-608
  8. Ison MG, et al. Clin Infect Dis 2024;78:1732-44.

บทความที่ถูกอ่านล่าสุด

น้ำมันระเหยยากที่ใช้ในเครื่องสำอาง 8 วินาทีที่แล้ว
ช็อกโกแลต จากโกโก้สู่สัญลักษณ์ในวันวาเลนไทน์ 13 วินาทีที่แล้ว
คอนแทคเลนส์ ภัยใกล้ตา 13 วินาทีที่แล้ว
เจ็ทแลค (Jet lag) เพลียเพราะบินไกลกินเมลาโตนินอย่างไรให้ได้ผล 13 วินาทีที่แล้ว
ออกกำลังกายอย่างไรดี ? 13 วินาทีที่แล้ว
อ่านฉลากยาดีๆ มีประโยชน์ 13 วินาทีที่แล้ว
การเก็บยาในตู้เย็นควรเก็บบริเวณไหนดี ? 13 วินาทีที่แล้ว
วิตามินและแร่ธาตุ 13 วินาทีที่แล้ว
นวัตกรรมทางเภสัชศาสตร์เพื่อพัฒนายาสำหรับเด็ก 13 วินาทีที่แล้ว
เข้าถ้ำ เข้าป่า ระวังติดเชื้อที่แฝงอยู่ 14 วินาทีที่แล้ว

อ่านบทความทั้งหมด

เกี่ยวกับคณะเภสัชศาสตร์
คลังความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด
ประดิษฐ์ หุตางกูร
คณบดีท่านแรกของคณะเภสัชศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

447 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
Copyright © 2021 - 2025
งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
การใช้และการจัดการคุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา