Loading…

เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย ใช้ของผู้หญิงได้หรือไม่?

เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย ใช้ของผู้หญิงได้หรือไม่?

รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

51,971 ครั้ง เมื่อ 4 ช.ม.ที่แล้ว
2013-10-06

ปัจจุบันจะพบว่ามีการโฆษณาขายเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายมากขึ้น และผู้ชายจะเข้ารับบริการเสริมความงามตามร้านตกแต่งทรงผม ทำสีผม นวดหน้า ดูดสิวเสี้ยน นวดตัวรวมทั้งการทำ ‘สปา’ ทั้งหลายไม่น้อยหน้าผู้หญิง ความจริงผู้ชายก็มีสิทธิมีผิวสะอาด ผิวสวย และชะลอแก่เช่นเดียวกับผู้หญิง ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แชมพูสระผม ครีมบำรุงผิวทั้งหลายและอื่นๆ ทั้งหญิงและชายจะซื้อใช้กันได้ สินค้าเหล่านี้ไม่ควรจะมีเพศ เพราะพื้นฐานและลักษณะโครงสร้างของผิวหนังเหมือนกัน อาจจะแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด แต่ปัจจุบันเครื่องสำอางจะเพิ่มประเภทให้ผู้ชายเลือกซื้อ เป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าของผู้ผลิต เช่น ครีมโฟมล้างหน้าสำหรับผู้ชาย ครีมบำรุงผิวสำหรับผู้ชาย ครีมกันแดดสำหรับผู้ชาย แชมพูสระผมสำหรับผู้ชาย บทความฉบับนี้จึงอยากจะให้ความรู้เพิ่มเติมกับผู้บริโภคถึงความแตกต่างของผิวหนังระหว่างชายหญิงว่าต่างกันมากน้อยเพียงไร สารมารถใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันได้หรือไม่

สรีระของผิวหนัง: ความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย
ผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างในทางสรีระวิทยาอันเนื่องมาจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศ ผิวหนังก็เช่นกัน ผิวหนังของผู้หญิงจะบางละเอียดกว่าผู้ชายแต่จะมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังหนากว่า ในขณะที่ผู้ชายจะมีชั้นผิวหนังหนากว่าผู้หญิงตลอดตั้งแต่ช่วงอายุ 5 ถึง 90 ปี ความหนาแน่นของคอลลาเจนของชั้นผิวหนังซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงจะค่อยๆบางลงเมื่ออายุมากขึ้น สำหรับผู้ชายจะโชคดีกว่าผู้หญิงตรงที่ คอลลาเจนในผู้ชายจะเสื่อมช้ากว่าจนถึงอายุ 90ปี ในขณะที่คอลลาเจนในผู้หญิงจะเสื่อมอย่างรวดเร็วในช่วงวัยหมดประจำเดือนประมาณอายุ 45 ปีเป็นต้นไป ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าในวัยเดียวกัน ผู้หญิงจึงแก่เร็วกว่า ผิวหนังเหี่ยวเร็วกว่าผู้ชาย ฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงเมื่อลดน้อยลงในวัยทอง ทำให้ผิวหน้าและผิวหนังแห้งเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคุณสมบัติของผิวหนังในการปกป้องความชุ่มชื้นของผิวหนังไม่มีความแตกต่างกันในชายและหญิง

สิ่งที่แตกต่างชัดเจนอีกประการหนึ่งคือ ผิวหนังผู้ชายจะมีไขมันหลั่งออกมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังมากกว่า ทำให้ผิวหนังมันกว่าตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงอายุประมาณ 69ปี และเป็นเหตุให้ผิวหน้าผู้ชายมีโอกาสเกิดสิวได้ง่ายกว่าและมากกว่าในผู้หญิง ในผู้หญิง ผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื้นเนื่องจากการหลั่งของไขมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังหมดประจำเดือนในขณะที่วัยทองของผู้ชายผิวหนังยังอยู่ในสภาพดีแม้จะไม่เต่งตึงเท่าวัยหนุ่มแต่ก็ไม่เสื่อมอย่างรวดเร็วเช่นในผู้หญิง

ผลของฮอร์โมนเพศชาย ‘แอนโดรเจน’ต่อการเจริญเติบโตและการหลุดร่วงของเส้นผม จะพบว่าผู้ชายมักจะมีปัญหาผมร่วงผมบางอันเนื่องมาจากฮอร์โมนแอนโดรเจน ในขณะที่ผู้หญิงจะมีผมดกผมหนาอันเนื่องมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจน


ความแตกต่างระหว่างเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายและผู้หญิง
โครงสร้างหลักของผิวหนังมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงจะไม่แตกต่างกันแม้ว่าจะแตกต่างกันในรายละเอียดอันเนื่องมาจากพันธุกรรมทางเพศและฮอร์โมนเพศดังที่กล่าวไปข้างต้น องค์ประกอบในเครื่องสำอางสำหรับทำความสะอาดผิว แชมพูสระผม ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด ครีมลบเลือนริ้วรอยแห่งวัยซึ่งผสมสารคอลลาเจน วิตามินอี และอื่นๆ ก็ยังคงอยู่ในหลักการเดียวกัน เพื่อบำรุง ซ่อมแซม และปกป้องผิวหนัง ครีมโฟมล้างหน้าไม่ว่าจะสำหรับผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ต้องประกอบด้วยสารทำความสะอาด ดังนั้นหลักการตลาดในการประชาสัมพันธ์เครื่องสำอางสำหรับผู้ชายจึงมักเน้นหนักที่ภาพลักษณ์สินค้าความเป็นผู้ชาย เช่น กลิ่นน้ำหอมผู้ชาย ภาชนะบรรจุสีหนักแน่น และตรอกย้ำคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ที่ ‘การแก้ไขจุดบกพร่อง’ (Corrective cosmetics) มากกว่าเครื่องสำอางทั่วไป เพื่อเป็นการดึงจุดขายของสินค้าแยกจากเครื่องสำอางผู้หญิง แต่ตามข้อเท็จจริงในสูตรตำรับและในหลักวิชาการแล้วไม่มีความแตกต่างสำหรับเครื่องสำอาง

โดยสรุปแล้ว ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไม่ควรจะมีเพศ ควรจะใช้ได้ทั้งชายและหญิง ให้คุณประโยชน์เท่ากันในชายและหญิง ผู้ชายที่ดูแลผิวพรรณให้สะอาดตั้งแต่ผิวหน้าจรดปลายเท้าได้ รวมถึงเสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้าน ย้อมจะดูดีแน่นนอนเมื่อเทียบกับผู้ชายที่ผิวหนังแลดูหยาบกร้าน ขาดการบำรุงหรือขาดการดูแล เป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำไปที่ผู้ชายในยุคปัจจุบันจะหันมาเอาใจใส่ผิวพรรณร่างกายตนเองมากขึ้นกว่าในอดีต

แหล่งอ้างอิง/ที่มา
  1. Parveen S, Misra R, Sahoo S K, Nanopartcles: a boon to drug delivery, therapeutics, diagnostics, and imaging. Nanomed Nanotechnol Biol Med. 2012;8:147-66.
  2. Venugaranti VV, Perumal OP, Chapter 9, Nanosystems for Dermal and Transdermal Drug Delivery, In: Pathak Y, Thassu D. Drug Delivery Nanoparticles Formulation and Characterization. New York: Informa Healthcare USA, Inc., 2009:126-55.
  3. Vettor M, Perugini P, Scalia S, Conti B, Genta I, Modena T, et al. Poly(D,L-lactide) nanoencapsulation to reduce photoinactivation of a sunscreen agent. Int J Cosmet Sci. 2008;30:219-27.
  4. Luppi B, Cerchiara T, Bigucci F, Basile R, Zecchi V. Polymeric nanoparticles composed of fatty acids and polyvinylalcohol for topical application of susscreens. J Pharm Pharmacol. 2004;56:407-11.
  5. Borowska K, Laskowska B, Magon A, Mysliwiec B, Pyda M, Wolowiec S. PAMAM dendrimers as solubilizers and hosts for 8-methoxypsorelene enabling transdermal diffusion of the guest. Int J Pharm. 2010;398:185-9.
  6. Chauhan AS, Sridevi S, Chalasani KB, Jain AK, Jain SK, Jain NK, et al. Dendrimer-mediated transdermal delivery: enhanced bioavailability of indomethacin. J Control Release. 2003;90:335-43.
  7. Cheng Y, Xu Z, Ma M, Xu T. Dendrimers as Drug Carriers: Applications in Different Routes of Drug Administration. J Pharm Sci. 2008;97(1):123-43.

-->

บทความที่ถูกอ่านล่าสุด

ยารักษาโรคกระดูกพรุน ใช้อย่างไร? 3 วินาทีที่แล้ว
เตือนปรับลดขนาด ยาพาราเซตามอล (paracetamol) สูงสุดต่อวัน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเป็นพิษต่อตับ 6 วินาทีที่แล้ว
ยาลดไขมันในเลือดชนิดฉีด 7 วินาทีที่แล้ว
กระท่อม .. พืชที่ทุกคนอยากรู้ 11 วินาทีที่แล้ว
ธาลัสซีเมีย (Thalassemia)...กินอย่างไรให้เหมาะสม 17 วินาทีที่แล้ว
ใบทุเรียนเทศรักษามะเร็งได้ (จริงหรือ?) … ที่นี่มีคำตอบ 21 วินาทีที่แล้ว
ผลแลปเลือดกับโรคไตเรื้อรัง 23 วินาทีที่แล้ว
กินอะไร เลี่ยงอะไร ในโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid) 26 วินาทีที่แล้ว
ผลแลปจากการตรวจเลือด....มีความหมายว่าอย่างไร 28 วินาทีที่แล้ว
เทคนิคป้อนยาสุนัขและแมวที่ไม่ยากอย่างที่คิด 29 วินาทีที่แล้ว

อ่านบทความทั้งหมด

เกี่ยวกับคณะเภสัชศาสตร์
คลังความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด
ประดิษฐ์ หุตางกูร
คณบดีท่านแรกของคณะเภสัชศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

447 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
Copyright © 2021 - 2025
งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
การใช้และการจัดการคุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา