ไทย |
ซูโดเอฟีดรีนมีประโยชน์ทางการแพทย์อย่างไร?
“ซูโดเอฟีดรีน” เป็นสารที่ออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ชื่อนอร์อะดรีนาลิน (noradrenaline) ฤทธิ์ที่สำคัญของซูโดเอฟีดรีนคือทำให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดในโพรงจมูก หลอดเลือดในท่อที่เชื่อมต่อระหว่างโพรงจมูกและหูชั้นในหรือท่อยูสเตเชียน และหลอดเลือดบริเวณเยื่อหุ่มตาขาว
เมื่อมีอาการแพ้หรือเป็นหวัดหลอดเลือดเหล่านี้จะขยายตัวทำให้เกิดอาการคัดจมูก แน่นในหูหูอื้อ หรือเคืองตา จากการที่ซูโดเอฟีดรีนมีฤทธิ์หดหลอดเลือดได้ทำให้มีผลรักษาอาการต่างๆเหล่านี้ อาการข้างเคียงของซูโดเอฟีดรีนที่อาจพบได้ ได้แก่ ใจสั่น นอนไม่หลับ และความดันโลหิตเพิ่ม
ซูโดเอฟีดรีนเป็นยาที่ใช้กันมานานหลานสิบปี ซูโดเอฟีดรีนชนิดรับประทานมีทั้งแบบยาเม็ดและยาน้ำสำหรับเด็ก มีใช้ทั้งในแบบตำรับยาเดี่ยว คือมีซูโดเอฟีดรีนเป็นตัวยาสำคัญเพียงชนิดเดียวในตำรับยา และแบบยาสูตรผสม คือมีตัวยาสำคัญอื่นๆร่วมด้วย สูตรผสมที่ใช้กันมากเป็นยาสูตรผสมแก้หวัด (ตัวอย่างในตารางที่ 1) โดยเฉพาะสูตรผสมระหว่างซูโดเอฟีดรีนและยาต้านฮิสตามีน เหตุที่ต้องผสมซูโดเอฟีดรีนร่วมกับยาต้านฮิสตามีน เพราะยาต้านฮิสตามีนมีฤทธิ์เพียงลดน้ำมูก แต่มีฤทธิ์แก้คัดจมูกน้อยมาก จึงต้องผสมซูโดเอฟีดรีนมีลงไปด้วยเพื่อให้ยามีฤทธิ์แก้คัดจมูก บางยี่ห้ออาจผสมยาอื่นๆลงไปด้วยเช่นพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ หรือยาแก้ไอ
เหตุใดจึงมีการนำซูโดเอฟีดรีนไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า?
สูตรโครงสร้างทางเคมีของซูโดเอฟีดรีนมีลักษณะคล้ายคลึงกับเมธแอมเฟตามีน (methaphetamine) ซึ่งเป็นสารสำคัญในยาบ้า (รูปที่ 1) โดยซูโดเอฟีดรีนมีสูตรโครงสร้างที่แตกต่างจากเมธแอมเฟตามีนเพียงตำแหน่งเดียวคือมีหมู่ hydroxyl (-OH) ที่อะตอมของคาร์บอนซึ่งแสดงด้วยวงกลมสีแดงในรูป ดังนั้นเมื่อนำซูโดเอฟีดรีนที่อยู่ในเภสัชภัณฑ์ยาเม็ดหรือยาน้ำไปสกัดและทำปฏิกิริยาทางเคมีที่กำจัดเอาหมู่ hydroxyl ออกจะได้เมธแอมเฟตามีน ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการลักลอบนำซูโดเอฟีดรีนไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า
การมียาที่มีส่วนผสมของซูโดเอฟีดรีนไว้ในครอบครองจะผิดกฏหมายคือไม่?
แต่เดิมซูโดเอฟีดรีนแบบยาสูตรผสมนั้นจัดเป็นยาอันตราย และสามารถจ่ายได้ในร้านยา ก่อนหน้านี้ผู้ที่มีอาการหวัดและคัดจมูกส่วนใหญ่จะได้รับซูโดเอฟีดรีนแบบตำรับยาสูตรผสมกับยาต้านฮิสตามีนจากร้านยา แต่หลังจากที่มีการจับกุมผู้ลักลอบนำยาซูโดเอฟีดรีนแบบตำรับยาสูตรผสมไปใช้ในทางที่ผิดจึงทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขยกระดับความเข้มงวดในการควบคุมการใช้ซูโดเอฟีดรีนมาโดยลำดับโดยในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555 ได้ประกาศให้ตำรับยาทุกตำรับที่มีซูโดเอฟีดรีนเป็นส่วนผสมจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ซึ่งจะมีใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น ทำให้ในปัจจุบันไม่สามารถซื้อหายาซูโดเอฟีดรีนแบบตำรับยาสูตรผสมในร้านยาได้อีกต่อไป กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ให้คำแนะนำสำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ยาที่มีซูโดเอฟีดรีนเป็นส่วนผสม โดยมีใจความสำคัญคือ ต้องได้รับการสั่งใช้โดยแพทย์โดยมีเอกสารหลักฐานยืนยัน เช่น ใบรับรองแพทย์ ใบสั่งยา หรือเอกสารกํากับบนซองยา ซึ่งแสดงชื่อและที่อยู่ ของสถานพยาบาลที่สั่งจ่าย และ ชื่อของผู้ป่วย นอกจากนี้ หากมีไว้ในครอบครองโดยมาเป็นไปตามที่กล่าวมาจะถือว่าผิดกฏหมาย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ไม่มีซูโดเอฟีดรีนขายในร้านยา หากคัดจมูกเล็กๆน้อยๆไม่อยากไปโรงพยาบาลแล้วจะทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่เป็นหวัดมีอาการคัดจมูกและเคยใช้ยาสูตรที่มีซูโดเอฟีดรีนผสมดังกล่าวได้ผลดีอาจได้รับผลกระทบจากการควบคุมดังกล่าว และมีความยากลำบากในการดูแลรักษาตนเองอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการดูแลรักษาตนเองในเบื้องต้น และไปรับบริการที่ร้านยา ยังมียาแก้คัดจมูกอื่นๆเป็นทางเลือกดังนี้ี้
บทสรุป
จากสถานการณ์เกี่ยวกับยาซูโดเอฟีดรีนที่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆส่วนใหญ่มุ่งความสนใจไปที่โทษของซูโดเอฟิดรีนที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า ทำให้ต้องมีมาตรการควบคุมการใช้อย่างเข้มงวด แต่อย่างไรก็ตามยาซูโดเอฟีดรีนก็มีประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างมากคือเป็นยาแก้คัดจมูกที่มีประสิทธิภาพดี หากใช้ยาซูโดเอฟีดรีนถูกคน ถูกโรค ถูกขนาด ถูกวิธี ซูโดเอฟีดรีนก็จะเปรียบเสมือนพระเอก แต่หากใช้ในทางที่ผิดก็จะเปรียบเสมือนผู้ร้าย สถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นตัวอย่างที่ดีของคำกล่าวที่ว่า “ยามีคุณอนันต์ แต่ก็มีโทษมหันต์” ซึ่งอยู่ที่เจตนาว่าจะนำไปใช้ในทางใด
เอกสารอ้างอิง