ปัจจุบันการรับรองคุณภาพเป็นแนวโน้มที่นิยมเพราะเป็นการประกันคุณภาพและบริการที่จะได้รับ
การรับรองคุณภาพร้านขายยาต่างจากการรับรองคุณภาพร้านอาหารตรงที่ถ้าร้านยาไม่มีคุณภาพจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง
แก่คนไข้ ในขณะที่การรับรองคุณภาพร้านอาหารถ้าเกิดความผิดพลาดผลกระทบก็เป็นเพียงแค่ไม่อร่อยแต่ไม่มีอันตรายเพราะผู้บริโภคมีสุขภาพแข็งแรงดี ต่างจากการรับบริการที่ร้าน
ขายยาที่ผู้บริโภคอาจมีอาการเจ็บป่วย ความผิดพลาดจากการไม่มีคุณภาพจะส่งผลรุนแรงกว่า
ในวงการเภสัชกรรมมีผู้รับผิดชอบหลักด้านการกำกับดูแลคุณภาพร้านยา 2 หน่วยงาน ได้แก่กระทรวงสาธารณสุขและสภาเภสัชกรรม ซึ่งทั้งสองหน่วยงานมีการประสานความร่วมมือ และทำงานร่วมกันอย่างดีจนเกิดมาตรการต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคปลอดภัยและอุ่นใจ
ปลายปี พ.ศ. 2556 กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้บังคับใช้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการขอใบอนุญาตและออกใบอนุญาตขายยายแผนปัจจุบัน พ.ศ. 2556 เพื่อควบคุมคุณภาพร้านยาในหลายประเด็นเช่น การมีเภสัชกรประจำการตลอดเวลาที่เปิดทำการ การควบคุมคุณภาพสถานที่และยา รวมทั้งการบริการทางเภสัชกรรม
นอกจากมาตรการในการควบคุมบังคับแล้วยังมีการส่งเสริมให้ร้านขายยาเข้ารับการรับรองคุณภาพ
โดยมีการประกาศเกณฑ์มาตรฐานร้านยาคุณภาพเพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน
ในฐานะผู้บริโภคพึงต้องมีความรู้เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ตนเองในการเลือกรับบริการร้านขายยาโดยใช้เกณฑ์ในการสังเกตง่ายๆ ซึ่งคัดเลือกส่วนสำคัญที่ท่านจะสังเกตเห็นเมื่อท่านรับบริการแล้วท่านจะสามารถแยกแยะได้ว่าร้านนั้นมีคุณภาพหรือไม่ ดังนี้
1. ด้านสถานที่ อุปกรณ์ และสิ่งสนับสนุนบริการ - สถานที่
สถานที่ต้องกว้างไม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร สังเกตจากถ้าเป็นอาคารพาณิชย์กว้าง 4 เมตร ร้านยานั้นต้องมีความลึกหรือยาวไม่น้อยกว่า 2 ตารางเมตร - มีความะอาด มีแสงสว่าง อากาศถ่ายเท และมีระบบป้องกันอัคคีภัย
- มีบริเวณให้คำแนะนำอย่างเป็นสัดส่วน
- มีบริเวณจัดแสดงสื่อความรู้เพื่อสุขภาพ
- มีป้ายแสดงว่าเป็นร้านยา และป้ายแสดงรูปถ่าย เลขที่ใบประกอบวิชาชีพ รวมถึงเวลาปฏิบัติการของเภสัชกรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่
- มีป้ายสัญลักษณ์ประเภทใบอนุญาต อย่างกรณีร้านขายยาแผนปัจจุบันประเภท 1 จะขายยาอันตรายตามใบสั่งแพทย์และยาบรรจุเสร็จ ยาสามัญประจำบ้าน
- ด้านอุปกรณ์
- ต้องแยกอุปกรณ์นับเม็ดยาปฏิชีวนะประเภทเพนนิซิลิน และซัลโฟนาไมด์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิตู้เก็บยาแช่เย็นอย่างสม่ำเสมอ ท่านสามารถสอบถามถึงการปฏิบัติตามเกณฑ์นี้ได้กับเภสัชกรประจำร้านทุกคน
- สิ่งสนับสนุนในร้านควรมี ตำรา แหล่งข้อมูล รวมทั้งฉลากช่วย เอกสารความรู้ให้บริการอย่างเหมาะสม
2. การบริหารจัดการคุณภาพ แบ่งเป็นด้านต่างๆ ดังนี้ - ด้านบุคลากร
- ต้องมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติงานตลอดเวลาที่เปิดทำการ และต้องแต่งกายตามข้อกำหนดของสภาเภสัชกรรม
- ถ้ามีผู้ช่วยเภสัชกรควรแสดงตนและต่างกายให้ทราบว่าเป็นผู้ช่วยเภสัชกรอย่างชัดเจน ไม่สร้างความสับสน
- ด้านกระบวนการคุณภาพ
- มีการสอบถามเพื่อระบุผู้ใช้ยาที่แท้จริง (ใครเป็นคนต้องการใช้ยาที่มาซื้อ) และมีการสอบถามอาการอย่างถี่ถ้วนก่อนสั่งใช้ยา หรือขายยานั้นๆ รวมถึงมีแฟ้มประวัติการใช้ยาเพื่อการให้บริการที่ถูกต้อง และปลอดภัย
3. การบริการทางเภสัชกรรมที่ดี สิ่งที่ท่านควรสังเกตคือ
- มีเภสัชกรเป็นผู้ส่งมอบยาให้ท่านเอง และต้องอธิบายการใช้ยาและการปฏิบัติตัวอื่นๆที่จำเป็น
- มีฉลากกำกับยาบนบรรจุภัณฑ์อย่างครบถ้วน ประกอบด้วย ชื่อสถานบริการ หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อผู้ป่วย วันที่จ่ายยา ชื่อการค้า ชื่อสามัญทางยา ข้อบ่งใช้ วิธีใช้ ข้อควรระวัง และวันหมดอายุ
- ไม่ควรส่งมอบยาให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ ในกรณีที่จำเป็นควรต้องมีวิธีการทีเหมาะสมและรัดกุม
เมื่อท่านทราบข้อสังเกตเหล่านี้ ควรนำใปตรวจสอบร้านยาที่ท่านรับบริการอยู่เป็นประจำว่าสอดคล้องตามเกณฑ์เหล่านี้หรือไม่ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยแก่ตัวท่านเอง
เอกสารอ้างอิง
- กฎกระทรวงสาธาณสุข การขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตร้านขายยาแผนปัจจุบัน พ.ศ. 2556
- http://newsser.fda.moph.go.th/advancepharmacy/apache-tomcat-5.5.23/webapps/ROOT/theway.html สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2557