Azithromycin ใช้รักษาอหิวาตกโรคในผู้ใหญ่
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือน สิงหาคม ปี 2549 -- อ่านแล้ว 10,736 ครั้ง
Azithromycin เป็นยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอหิวาตกโรคในเด็กโดยใช้เพียงครั้งเดียว เป็นยาที่มีค่าครึ่งชีวิตยาว และเกิดอาการข้างเคียงต่อทางเดินอาหารน้อย แต่ข้อมูลการใช้ในผู้ใหญ่ยังไม่มากพอ จึงมีการศึกษาแบบ randomized, double-blind trial ตั้งแต่เดือน 11 ธันวาคม 2002 ถึง 2 พฤษภาคม 2004 ในผู้ป่วยอายุ 18-60 ปี ที่มีอาการท้องเสียรุนแรง เนื่องจากติดเชื้ออหิวาตกโรคสายพันธุ์ O1 และ O139 จำนวน 195 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รับประทาน azithromycin 500 มิลลิกรัม 2 เม็ด กับกลุ่มที่รับประทาน ciprofloxacin 500 มิลลิกรัม 2 เม็ด เพียงครั้งเดียว และให้พักอยู่ในสถานที่รักษาเป็นเวลา 5 วัน ประเมินผลทุก 6 ชั่วโมงและตรวจเชื้อในอุจจาระทุกวัน พบว่าผู้ป่วยที่ให้ azithromycin ให้ผลทางคลินิก (ประเมินจากการหยุดถ่ายเป็นน้ำหลังให้ยาภายใน 48 ชั่วโมง) ดีกว่าผู้ป่วยที่ให้ ciprofloxacin (73% VS 27%, p<0.001) และ azithromycin มีผลต่อเชื้อแบคทีเรีย (ประเมินจากไม่พบเชื้อ Vibrio cholera ในอุจจาระหลังจากให้ภายใน 48 ชั่วโมง) ดีกว่า ciprofloxacin เช่นกัน ( 78% VS 10%, p<0.001) เมื่อเปรียบเทียบกับ ciprofloxacin แล้ว azithromycin ยังลดระยะเวลาที่มีอาการท้องเสีย (ค่ากึ่งกลาง : 30 VS 78 ชั่วโมง), ปริมาณอุจจาระ (ค่ากึ่งกลาง : 114 VS 322 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม) และความถี่ของอาการอาเจียน(43% VS 67%) รวมทั้งลดปริมาณของเหลวที่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่า และใช้เวลาในการกำจัดเชื้อ V. cholera น้อยกว่า ciprofloxacin อีกด้วย อาการข้างเคียงจากการรับประทาน azithromycin และ ciprofloxacin คือ ปวดท้อง
การรับประทาน Azithromycin เพียงขนาดเดียว จึงมีประสิทธิผลเพื่อใช้รักษาอหิวาตกโรคในผู้ใหญ่ได้