Artemisinin-Resistant Malaria Detected in Western Cambodia
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือน กรกฎาคม ปี 2552 -- อ่านแล้ว 2,385 ครั้ง
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานถึงการวิจัยใหม่ที่กล่าวถึงการดื้อยา artemisinin ของเชื้อ Plasmodium falciparum ในภาคตะวันตกของกัมพูชา และการทดสอบในหลอดทดลองอาจจะให้ผลที่ผิด
การศึกษาเมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นถึงการลดลงของประสิทธิภาพในการรักษามาลาเรียที่เกิดจากเชื้อ P.falciparum ด้วยยาที่มี artemisinin เป็นตัวหลักในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา และผลของอีกหนึ่งการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเพาะsporozoitesที่สมบูรณ์สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดการป้องกันต่อการติดเชื้อมาลาเรียได้ การศึกษาแรก เป็นของ Dr. Arjen M. Dondorp และคณะ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการประเมินถึงการตอบสนองต่อยา artesunate ที่มีและไม่มี mefloquin ร่วมด้วย ในผู้ป่วยที่อาศัยอยู่บริเวณภาคตะวันตกของกัมพูชา 40คน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย 40 คน พบว่าเมื่อทดสอบในหลอดทดลอง เวลาในการกำจัดเชื้อปรสิต (time to parasite clearance) ในคนไทยนานกว่าคนกัมพูชาอย่างมีนัยสำคัญ ( 84 ชั่วโมง : 48 ชั่วโมง ; p < 0.001) แต่อย่างไรก็ดี ยังไม่พบว่าเชื้อมีความไวต่อยา artesunate ลดลง
การศึกษาที่สอง เป็นของ Dr. Robert Sauerwein มหาวิทยาลัย Radboud, Nijmegen และคณะ ได้ทำการตรวจสอบการเพาะ sporozoite โดยผ่านการกัดของยุง เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อมาลาเรีย กลุ่มตัวอย่างสุขภาพดี จำนวน 10 คน ถูกให้ยุงที่มีเชื้อมาลาเรียกัด (vaccine group) และอีก 5 คนถูกให้ยุงที่ไม่มีเชื้อมาลาเรียกัด (control group) โดยจะถูกให้ยุงกัดเดือนละครั้งเป็นเวลา 3เดือน ซึ่งในระหว่าง 3 เดือนนี้ผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับการป้องกันด้วย chloroquine หลังจากการหยุด chloroquin 1 เดือน กลุ่มตัวอย่างทั้ง2 กลุ่มจะถูก challenge ด้วยยุงที่มีเชื้อ P.falciparum อีก
ผลที่ได้คือ vaccine group ได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่ในขณะที่ control group ตรวจพบ parasitemia แต่ทั้งสองกลุ่มไม่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์