ประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในผู้ใหญ่โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือน พฤษภาคม ปี 2552 -- อ่านแล้ว 2,222 ครั้ง
พบว่าการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการให้วัคซีนโดยการฉีดเข้ากล้ามโดยอ้างอิงจากการศึกษาแบบ randomized controlled trial ผู้เข้าร่วมการศึกษาเป็นอาสาสมัครสุขภาพดีอายุระหว่าง 18 ถึง 57 ปี จำนวน 1150 คน ผู้เข้าร่วมการศึกษาจะได้รับวัคซีนป้อง กันไข้หวัดใหญ่ปีละครั้งเป็นเวลา 3 ปี ในปีที่ 1 ผู้เข้าร่วมการศึกษาจะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนังในขนาด 3 microg/strain/dose กลุ่มที่สองจะได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนังในขนาด 6 microg/strain/dose ส่วนกลุ่มที่สามจะได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้ากล้ามในขนาด 15 microg/strain/dose ในปีที่ 2 ผู้เข้าร่วมการศึกษาจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนังในขนาด 9 microg/strain/dose กลุ่มที่สองจะได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้ากล้ามในขนาด 15 microg/strain/dose และในปีที่ 3 ผู้เข้าร่วมการศึกษาจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนังในขนาด 9 microg/strain/dose กลุ่มที่สองจะได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้ากล้ามในขนาด 15 microg/strain/dose จะมีการประเมินภาวะภูมิคุ้มกันก่อนได้รับวัคซีนและหลังได้รับวัคซีน 21 วัน ผลการศึกษาพบว่าในปีที่ 2 และ ปีที่ 3 การได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนังในขนาด 9 microg/strain/dose มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการได้รับวัคซีนแบบฉีดเข้ากล้ามในขนาด 15 microg/strain/dose ส่วนความปลอดภัยในการให้วัคซีนพบว่าผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่คือ อาการไข้ หนาวสั่น ซึ่งผลข้างเคียงที่พบระหว่างการได้รับวัคซีนทั้งสองวิธีไม่แตกต่างกัน ดังนั้นการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบฉีดเข้าใต้ผิวหนังจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี