ประสิทธิภาพของ Acitretinในขนาดต่ำในการรักษโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือน มีนาคม ปี 2552 -- อ่านแล้ว 7,900 ครั้ง
ถึงแม้ว่าโรคสะเก็ดเงินที่เล็บจะพบได้บ่อยแต่ข้อมูลด้านประสิทธิภาพของการใช้ยารักษาโรคสะเก็ดเงินที่เล็บแบบ systemic ยังมีน้อยโดยเฉพาะโรคสะเก็ดเงินที่เล็บแบบรุนแรงและมีการแพร่กระจายของรอยโรคที่เล็บ จึงมีการศึกษาทางคลินิกซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของ Acitretin ขนาดต่ำในผู้ป่วยโรคสะเก็ดที่เล็บโดยไม่มีอาการทางผิวหนังร่วมด้วย ผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 36 คนโดยทุกคนเป็นโรคสะเก็ดที่เล็บที่มีอาการรุนแรงปานกลางถึงมาก ผู้เข้าร่วมการศึกษาจะได้รับ Acitretin ในขนาด 0.2-0.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน ประเมินอาการทางคลินิกและผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการทุก 2 เดือน ความรุนแรงของอาการสะเก็ดเงินที่เล็บใช้การประเมินโดยวิธี Nail Psoriasis Severity Index (NAPSI) และ modified NAPSI โดยมีการประเมินความรุนแรงของอาการตั้งแต่ก่อนเริ่มการศึกษา, ระหว่างการศึกษาและสิ้นสุดการศึกษา ผลการรักษาด้วย Acitretin เป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่าค่าเฉลี่ยของ NAPSI และ modified NAPSI scores ลดลงร้อยละ 41 และร้อยละ 50 ตามลำดับ และอาการที่เล็บยังคงดีขึ้นเมื่อประเมินอาการเดือนที่ 6 หลังจากหยุดการรักษา สำหรับผลการรักษาทางคลินิกพบว่าผู้ป่วย 9 คน ไม่พบรอยโรคที่เล็บ, ผู้ป่วย 9 คนมีอาการที่เล็บดีขึ้นในระดับปานกลาง, ผู้ป่วย 12 คนมีอาการที่เล็บดีขึ้นเล็กน้อยและผู้ป่วย 6 คน อาการที่เล็บไม่ดีขึ้นหลังการรักษา พบผู้ป่วยที่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา (periungual pyogenic granulomas) เพียง 1 คนโดยอาการดีขึ้นเมื่อลดขนาดยา ดังนั้นการใช้ Acitretin ขนาดต่ำจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ