การใช้ rifampin อาจให้ผลดีกว่า isoniazid ในผู้ป่วย latent tuberculosis

พบรายงานการศึกษาทางคลินิกเพื่อเปรียบเทียบผลข้างเคียงในการรักษาผู้ป่วย latent tuberculosis infection (LTBI) ด้วย isoniazid กับ rifampin ผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 847 คน ถูกสุ่มแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกได้รับ rifampin ต่อเนื่องกัน 4 เดือน กลุ่มที่ 2 ได้รับ isoniazid ต่อเนื่องกัน 9 เดือน ผลที่ต้องการศึกษาคือการเกิดผลข้างเคียงต่างๆจากการใช้ยารวมถึงการเกิดพิษต่อตับ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับ isoniazid จำนวน 422 คน เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา 17 คน ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ rifampin 418 คน เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา 7 คน (P=0.04) นอกจากนั้น กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ isoniazid เกิดตับอักเสบจากยาจำนวน 16 คน ส่วน กลุ่มที่ได้รับ rifampin เกิดตับอักเสบจำนวน 3 คน เมื่อสิ้นสุดการศึกษาพบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับ rifampin มีจำนวนผู้ป่วยอยู่จนครบระยะเวลาการรักษาร้อยละ 78 ส่วนผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับ isoniazid มีจำนวนผู้ป่วยอยู่จนครบระยะเวลาการรักษาร้อยละ 60 (P<0.001) ดังนั้นจากผลการศึกษาพบว่าการรักษาด้วย rifampin เกิดผลข้างเคียงจากยาน้อยกว่า isoniazid ข้อจำกัดของการศึกษาครั้งนี้คือไม่มีข้อมูลการวัดประสิทธิภาพของการรักษาเปรียบเทียบกัน, compliance ของผู้ป่วยอาจขึ้นอยู่กับภาวะอื่นๆและการศึกษาครั้งนี้มีลักษณะเป็น open-label ซึ่งอาจทำให้เกิดอคติได้