Aspirin อาจเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสำหรับการรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

โดยปกติแล้วผู้ป่วยที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (venous thromboembolism; VTE) จะต้องได้รับการรักษาเบื้องต้นด้วย heparin แล้วตามด้วย low-molecular weight heparins หรือ warfarin หรือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดใหม่เป็นระยะเวลาประมาณ 3-12 เดือน จากการศึกษาแบบสุ่มชื่อว่า ASPIRE (Aspirin to Prevent Recurrent Venous Thromboembolism) โดย Dr Timothy Brighton จากโรงพยาบาล Prince of Wales และคณะเพื่อดูผลของการใช้ aspirin ต่อเนื่องไปอีก 4 ปี เทียบกับยาหลอกในผู้ป่วยภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ผ่านการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดมาแล้ว จำนวน 822 ราย ให้ข้อสรุปว่า aspirin อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เนื่องจากพบว่า มีการกลับเป็นซ้ำของภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (recurrence VTE) ในกลุ่มที่ใช้ aspirin น้อยกว่ากลุ่มที่ได้ยาหลอก (73/411 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.5ต่อปี สำหรับผู้ที่ได้รับยาหลอก และ 57/411 ราย หรือเท่ากับร้อยละ 4.89 ต่อปี ตามลำดับ และมี hazard ratio เทียบกับกลุ่มที่ได้รับยา aspirin คือ 0.74, P=0.09) แม้ว่าการศึกษานี้จะให้ผลลัพธ์ที่ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อวิเคราะห์รวมกับผลการศึกษา WARFASA พบว่า aspirin ช่วยลดการกลับเป็นซ้ำของภาวะลิ่มเลือดอุดตันลงได้ร้อยละ 32 (p=0.007) ทั้งนี้รวมถึงลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (MI) หรือ การเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด (p=0.002) ได้อีกด้วย จากผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า aspirin ช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ทั้งในหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง อย่างไรก็ตามยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลของยา aspirin ต่อไป