US FDA ยอมรับให้ใช้ Humira (Adalimumab) สำหรับการรักษาการอักเสบของลำไส้ใหญ่ (ulcerative colitis)
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือน ตุลาคม ปี 2555 -- อ่านแล้ว 11,407 ครั้ง
Ulcerative colitis เป็นโรคเรื้อรังที่มีการอักเสบและแผลในลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยมักมีอาการท้องเสียเป็นประจำและมีเลือดออก ซึ่งการรักษาจะแตกต่างกันขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละราย
Humira (Adamimumab) เป็นยาฉีดในกลุ่มยาต้าน tumor necrosis factor (Anti-TNF) ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบและลดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน เดิมทีเดียวได้รับการยอมรับให้ใช้รักษาโรคข้อรูมาตอยด์ (2002), ข้ออักเสบในโรคเรื้อน (2005), ข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด (ankylosing spondylitis) (2006), ลำไส้อักเสบโคร์หน (Crohn’s disease) (2007), อาการทางผิวหนังในโรคเรื้อน (plaque psoriasis) (2008) และ ข้ออักเสบในเด็กที่ไม่ทราบสาเหตุ (2008) และล่าสุด เมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา องค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศข้อบ่งใช้เพิ่มเติมของ Humira ให้ใช้สำหรับการรักษา ulcerative colitis ชนิดรุนแรงปานกลางถึงมาก ในผู้ใหญ่ที่ใช้ยากดภูมิต้านทานเช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์,azathioprine และ 6-mercaptopurine แล้วไม่ได้ผล
หลักฐานที่สนับสนุนการประกาศครั้งนี้มาจากการศึกษา 2 แห่งเปรียบเทียบกับยาหลอก ในผู้ป่วยที่เคยใช้ยากลุ่ม TNF-blocker มาก่อน หรือ มีการตอบสนองที่ไม่ดี หรือ ไม่สามารถทนต่ออาการข้างเคียงของยากลุ่มนี้ได้ จำนวน 908 คน พบว่ามีผู้ที่ใช้ยา Humira แล้วหายจากโรคเกือบเป็นเท่าตัวของกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (ร้อยละ 16.5 และ 18.5 เทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอกร้อยละ 9.2 และ 9.3 ในการศึกษาทั้งสองตามลำดับ) นอกจากนี้ในการศึกษาที่สองยังพบว่ากลุ่มที่ใช้ยามีผู้ที่ไม่มีอาการกลับเป็นซ้ำมากเป็น 2 เท่าของกลุ่มที่ใช้ยาหลอก (ร้อยละ 8.5 และ 4.1 ตามลำดับ) ขนาดที่ใช้ในการศึกษา คือ เริ่มต้นด้วย 160 mg ตามด้วยครั้งที่สอง 80 mg และตามด้วย maintenance dose ขนาด 40 mg โดยการให้ยาแต่ละครั้งจะให้ทุก 2 สัปดาห์ หรือ สัปดาห์เว้นสัปดาห์ ยานี้ควรใช้อย่างต่อเนื่องถ้าประเมินที่ 8 สัปดาห์แล้วว่ามีการตอบสนองดีอย่างไรก็ตามพึงระลึกไว้ว่า อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยของยานี้ คือ การติดเชื้อรุนแรง ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบริเวณฉีดยา ปวดศีรษะ และ ผื่นแพ้ยา