Loading…

ไข่ผำ: โปรตีนแห่งอนาคตเพื่อสุขภาพและความยั่งยืน

ไข่ผำ: โปรตีนแห่งอนาคตเพื่อสุขภาพและความยั่งยืน

รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ. จิราพร เลื่อนผลเจริญชัย

ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

148 ครั้ง เมื่อ 9 นาทีที่แล้ว
2025-09-08

บทนำ

ไข่ผำ หรือ ผำ (Wolffia globosa) จัดเป็นพืชน้ำขนาดเล็กที่สุดในโลก อยู่ในกลุ่มแหนเล็ก (duckweed family: Lemnaceae) ลักษณะของไข่ผำมีรูปร่างค่อนข้างกลม ไม่มีราก ไม่มีใบ ยาวประมาณ 0.5-1.5 มิลลิเมตร มีความคล้ายไข่ปลาหรือสาหร่ายจิ๋ว ๆ สีเขียวสด เม็ดเล็ก ๆ เกาะติดกันอย่างละเอียด ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำจืดที่น้ำนิ่ง เช่น หนอง บึง หรือนาข้าว ชาวบ้านในภาคเหนือและอีสานของประเทศไทยรู้จักเก็บไข่ผำมาประกอบอาหารมาช้านาน โดยนิยมทำเป็นแกง ต้ม หรือใส่ไข่เจียว จนมีคำกล่าวว่า “ไข่ผำคือเนื้อปลาในน้ำ และผักบนบกในคราวเดียวกัน” เพราะให้คุณค่าทางโภชนาการสูงและอุดมด้วยโปรตีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไข่ผำได้รับความสนใจในระดับนานาชาติในฐานะ “อาหารโปรตีนทางเลือก” ที่ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จึงมีการพัฒนาเพาะเลี้ยงในระบบฟาร์มมาตรฐาน เพื่อให้สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง

คุณค่าทางโภชนาการของไข่ผำ

คุณค่าทางโภชนาการของไข่ผำ 100 กรัม ถูกแสดงในตารางที่ 1

 

ตารางที่ 1 คุณค่าทางโภชนาการของไข่ผำ 100 กรัม

สารอาหาร

ปริมาณ

พลังงาน  (กิโลแคลอรี่/ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง)

8.00

โปรตีน (ร้อยละ)

6.80–45.00

ไขมัน (ร้อยละ)

1.80–9.20

เส้นใย (ร้อยละ)

5.70–16.20

แคลเซียม  (มิลลิกรัม/ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง)

59.00

ฟอสฟอรัส  (มิลลิกรัม/ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง)

25.00

เหล็ก  (มิลลิกรัม/ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง)

6.60

วิตามินเอ  (IU/ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง)

5,346.00

วิตามินบี  (มิลลิกรัม/ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง)

0.03

กรดอะมิโน  (มิลลิกรัม/ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง)

 

อะลานีน

1,386.00

อาร์จินีน

1,045.00

กรดแอสปาร์ติก

1,576.00

ซิสเทอีน

   339.00

กรดกลูตามิก

1,723.00

ไกลซีน

   756.00

ฮิสทิดีน

   335.00

ไอโซลิวซีน

   524.00

ลิวซีน

1,222.00

ไลซีน

1,094.00

เมไทโอนีน

    176.00

ฟีนิลอะลานีน

    728.00

โพรลีน

    820.00

เซอรีน

    710.00

ทรีโอนีน

    636.00

ทริปโตเฟน

1,272.00

ไทโรซีน

1,095.00

วาลีน

    774.00

กรดอะมิโนทั้งหมด

16,211.00

กรดอะมิโนจำเป็นทั้งหมด

 7,860.00

 

ไข่ผำมีจุดเด่นคือ ปริมาณโปรตีนสูงมาก (35–45% ของน้ำหนักแห้ง) ใกล้เคียงหรือสูงกว่าถั่วเหลืองและใกล้เคียงโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ที่สำคัญคือมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน จึงจัดว่าเป็น “โปรตีนสมบูรณ์” (complete protein) ที่เหมาะกับทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และผู้ทานมังสวิรัติ

นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ได้แก่

  • ใยอาหาร ช่วยระบบขับถ่ายและควบคุมน้ำหนัก
  • วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก และแคลเซียม
  • สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยลดการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน
  • กรดไขมันจำเป็น ในสัดส่วนที่เหมาะสมต่อการทำงานของหัวใจและสมอง

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

งานวิจัยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศแสดงให้เห็นว่า ไข่ผำมีศักยภาพในการส่งเสริมสุขภาพหลายประการ เช่น

  1. เสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกาย เนื่องจากโปรตีนคุณภาพสูงและย่อยง่าย
  2. ช่วยลดภาวะโลหิตจาง จากธาตุเหล็กที่มีอยู่ในปริมาณมาก
  3. ดูแลสุขภาพกระดูกและฟัน ด้วยแคลเซียม
  4. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด งานวิจัยเบื้องต้นพบว่าไข่ผำช่วยลดระดับกลูโคสหลังรับประทานอาหารได้
  5. ป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ด้วยคุณสมบัติของใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ

มิติสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

นอกจากคุณค่าทางโภชนาการ ไข่ผำยังมีข้อได้เปรียบเชิงสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ได้แก่

  • เติบโตเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 2–3 วันก็เพิ่มปริมาณได้เป็นเท่าตัว
  • ใช้น้ำน้อยและไม่ต้องใช้พื้นที่เพาะปลูกมาก จึงเหมาะกับการผลิตอาหารในอนาคต
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อเทียบกับการเลี้ยงปศุสัตว์
  • สร้างรายได้ให้เกษตรกร ผ่านการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น ผงโปรตีนจากไข่ผำ หรืออาหารฟังก์ชัน

การบริโภคอย่างปลอดภัย

แม้ไข่ผำจะเป็นอาหารพื้นบ้านที่รับประทานได้ยาวนาน แต่การเก็บจากแหล่งน้ำธรรมชาติอาจมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนโลหะหนักหรือเชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้นการเลือกบริโภคไข่ผำที่ผ่านการเพาะเลี้ยงในระบบฟาร์มมาตรฐาน และผ่านการตรวจสอบคุณภาพ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

สรุป

ไข่ผำจึงไม่ใช่เพียงอาหารพื้นบ้าน แต่กำลังกลายเป็น “โปรตีนแห่งอนาคต” ที่ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพของผู้คนและความยั่งยืนของโลก ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง มีงานวิจัยรองรับ และสามารถเพาะเลี้ยงได้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากไข่ผำ เช่น ผงโปรตีน เครื่องดื่ม หรืออาหารเสริม จึงเป็นอีกแนวทางที่ช่วยยกระดับอาหารไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล

 

Image by 👀 Mabel Amber, who will one day from Pixabay

แหล่งอ้างอิง/ที่มา
  1. Appenroth K-J, Sree, KS, Böhm V, Hammann S, Vetter W, Leiterer M, et al. Nutritional value of duckweeds (Lemnaceae) as human food. Food Chem. 2018; 217: 266–73.
  2. Appenroth KJ, Sree KS, Bog M, Ecker J, Seeliger C, Böhm V, et al. Nutritional value of the duckweed species of the genus Wolffia (Lemnaceae) as human food. Front Chem. 2018; 6: 483.
  3. Pan-utai W. Wolffia: Green aqua plant and alternative protein for human health. Food Journal. 2020; 50: 28–36.
  4. Tipnee S, Jutiviboonsuk A, Wongtrakul P. The bioactivity study of active compounds in Wolffia globosa extract for an alternative source of bioactive substances. Cosmetics. 2017; 4(4): 53.
  5. Boonarsa P, Bunyatratchata A, Chumroenphat T, Thammapat P, Chaikwang T, et al. Nutritional quality, functional properties, and biological characterization of watermeal (Wolffia globosa). Horticulturae. 2024; 10(11): 1171.
  6. Monthakantirat O, Chulikhit Y, Maneenet J, Khamphukdee C, Chotritthirong Y, Limsakul S, et al. Total active compounds and mineral contents in Wolffia globose. J Chem. 2022; 2022: 9212872.

บทความที่ถูกอ่านล่าสุด

ผลแลปจากการตรวจเลือด....มีความหมายว่าอย่างไร 1 วินาทีที่แล้ว
หยุดคิดสักนิด…ก่อนคิดฝ่าไฟแดง 4 วินาทีที่แล้ว
การฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซี (UVC) 5 วินาทีที่แล้ว
สมุนไพรกับยาแผนปัจจุบัน..กินด้วยกันดีมั้ย? 9 วินาทีที่แล้ว
น้ำเมือกหอยทาก กับคุณสมบัติในทางยาและเครื่องสำอาง 10 วินาทีที่แล้ว
น้ำวีทกราส … น้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี 18 วินาทีที่แล้ว
ยาลดไขมันในเลือด : ตอนยาลดไตรกลีเซอไรด์ 26 วินาทีที่แล้ว
การใช้สมุนไพร อายุรเวท รักษามะเร็ง 1 นาทีที่แล้ว
กลูโคซามีนซัลเฟต (glucosamine sulphate) กับโรคข้อเสื่อม (osteoarthristis) 1 นาทีที่แล้ว
ยาหอม กับคนวัยทำงาน 1 นาทีที่แล้ว

อ่านบทความทั้งหมด

เกี่ยวกับคณะเภสัชศาสตร์
คลังความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด
ประดิษฐ์ หุตางกูร
คณบดีท่านแรกของคณะเภสัชศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

447 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
Copyright © 2021 - 2025
งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
การใช้และการจัดการคุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา