Loading…

CPR เบื้องต้นในสุนัขและแมวที่เจ้าของสามารถทำได้เอง

CPR เบื้องต้นในสุนัขและแมวที่เจ้าของสามารถทำได้เอง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สพญ.นรรฆวี แสงกลับ

ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

599 ครั้ง เมื่อ 2 วันที่แล้ว
2025-06-09

CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) หรือการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เป็นวิธีการช่วยชีวิตสุนัขและแมวที่หมดสติและไม่มีการหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น โดยเทคนิคการทำ CPR นั้นอาจฟังดูเหมือนยาก แต่จริง ๆ ไม่ยากอย่างที่คิดและเป็นเรื่องที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรรู้และสามารถทำได้ด้วยตนเอง เพราะการช่วยเหลือที่รวดเร็วสามารถเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้สัตว์ได้อย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อไหร่ถึงควรทำ CPR

เจ้าของควรเริ่มทำ CPR เมื่อพบว่าสัตว์มีอาการดังต่อไปนี้

  • ไม่หายใจ หรือมีอาการหายใจกระตุกเฮือก (agonal breathing)
  • ไม่มีการเต้นของหัวใจ (ตรวจไม่พบชีพจร)
  • ไม่ตอบสนองต่อเสียงหรือการกระตุ้น (เช่น ไม่กระพริบตาเมื่อสัมผัสที่ตาเบา ๆ)

ขั้นตอน CPR เบื้องต้นในสุนัขและแมว

1. ตรวจเช็คความปลอดภัย : ก่อนเริ่ม CPR ต้องแน่ใจว่าสถานการณ์ปลอดภัยทั้งสำหรับตัวเจ้าของและสัตว์ เช่น อยู่ห่างจากถนนหรือของอันตรายที่อาจจะหล่นใส่ได้

2. ประเมินอาการ : ตรวจการหายใจและชีพจร โดยให้ฟังเสียงหายใจ หรือดูการเคลื่อนไหวของหน้าอก และคลำชีพจรที่บริเวณต้นขาด้านใน (femoral artery) หากพบว่าสัตว์เลี้ยงไม่มีการหายใจและไม่มีชีพจร ให้เริ่มทำการ CPR ทันที

3. วางตำแหน่งสัตว์ให้เหมาะสม : โดยเริ่มจากให้สัตว์เลี้ยงนอนตะแคงขวา (หัวใจจะอยู่ใกล้พื้น) จากนั้นตรวจช่องปาก หากพบว่ามีสิ่งแปลกหลอม เช่น เศษอาหาร ให้เอาออก

4. เริ่มการนวดหัวใจ (Chest compressions) : วิธีการนวดหัวใจจะแตกต่างกันไปตามขนาดตัวและสรีรวิทยาของสัตว์ดังนี้

- สุนัขขนาดกลาง-ใหญ่ : ใช้สองมือประสานกัน วางบนส่วนกว้างสุดของกระดูกซี่โครง กดแรงพอให้กระดูกอกยุบประมาณ 1/3–1/2 ของความลึกอก

- สุนัขขนาดเล็กหรือแมว : ใช้มือเดียวหรือสองนิ้ว บีบอกเบา ๆ โดยเน้นการบีบ "รอบอก"

- อัตราเร็วของการนวดหัวใจที่แนะนำ: ประมาณ 100–120 ครั้งต่อนาที (เทียบเท่าจังหวะเพลงจังหวะเร็ว) (1)

5. ให้การช่วยหายใจ (Ventilation) : หากสามารถทำได้ให้ปิดปากสุนัขหรือแมวให้สนิท (สำหรับสุนัข) แล้วเป่าลมหายใจเข้าทางจมูก เป่าแรงพอให้เห็นหน้าอกขยาย โดยใช้อัตราการช่วยหายใจ 1 ครั้ง ต่อการนวดหัวใจ 30 ครั้ง หรือหากมีคนช่วย 2 คน ให้ใช้การช่วยหายใจ 1 ครั้งต่อการนวด 10-12 ครั้ง (2)

6. สลับกันทำไปเรื่อย ๆ : โดยทำ CPR เป็นรอบ ๆ พร้อมประเมินการหายใจและชีพจรทุก 2 นาทีหากพบว่ามีชีพจรหรือหายใจกลับมา ให้หยุด CPR และพาสัตว์ไปพบสัตวแพทย์ทันทีอย่างไรก็ตามหากทำ CPR นานถึง 10–15 นาทีแล้วตัวสัตว์เลี้ยงยังไม่ฟื้น อาจจำเป็นต้องพิจารณาหยุดการทำ CPR เช่นกัน

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

  • อย่าหยุดนวดหัวใจนานเกิน  10 วินาที ระหว่างการช่วยหายใจ
  • ระวังความแรงในการกดหน้าอก โดยเฉพาะในสุนัขพันธุ์เล็กหรือแมว เพราะช่องอกและกระดูกหักได้ง่าย
  • การฝึกซ้อม  CPR ล่วงหน้า จะช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจริง

การทำ CPR เบื้องต้นอย่างถูกต้องตั้งแต่ช่วงแรกที่สัตว์เลี้ยงมีภาวะหัวใจหยุดเต้น สามารถเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตได้อย่างมาก ดังนั้นเจ้าของสัตว์ควรเรียนรู้และฝึกซ้อมการช่วยชีวิตเบื้องต้นนี้ไว้ เพราะในยามฉุกเฉิน “การกระทำที่รวดเร็วและถูกต้อง” คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงของเราได้นั่นเอง

Image by LipikStockMedia on Freepik

แหล่งอ้างอิง/ที่มา
  1. Fletcher DJ, Boller M, Brainard BM, et al. RECOVER evidence and knowledge gap analysis on veterinary CPR. Part 7: Clinical guidelines. J Vet Emerg Crit Care (San Antonio). 2012;22 Suppl 1:S102-S131.
  2. Boller M, Fletcher DJ, Brainard BM, et al. RECOVER clinical guidelines for veterinary cardiopulmonary resuscitation (CPR). J Vet Emerg Crit Care (San Antonio). 2012;22(S1):S5-S40.
  3. Hofmeister EH, Brainard BM, Egger CM. Resuscitation in veterinary medicine: An update. Vet Anaesth Analg. 2014;41(2):108-119.

บทความที่ถูกอ่านล่าสุด

หน้าสวยด้วย “ทานาคาของเมียนม่าร์หรือกระแจะของไทย” 1 วินาทีที่แล้ว
ยาฆ่าเชื้อกับการตั้งครรภ์และให้นมบุตร 1 วินาทีที่แล้ว
ยาแก้ปวดข้อ ข้ออักเสบ-กลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) 4 วินาทีที่แล้ว
ทำความรู้จักกับอินูลิน (Inulin) และประโยชน์ของอินูลินต่อสุขภาพ 5 วินาทีที่แล้ว
ทีมหมูป่า เด็กติดถ้ำ กับภาวะ Refeeding Syndrome ที่ต้องระวัง 21 วินาทีที่แล้ว
ร้านยาคุณภาพ: จะรู้ได้อย่างไร 26 วินาทีที่แล้ว
อันตรายจากขบวนการฟอกหน้าขาว 34 วินาทีที่แล้ว
ยาทาภายนอกรักษาโรคเชื้อรา : ยารักษากลากและเกลื้อน 1 นาทีที่แล้ว
อันตรายจากยาตกค้างในสิ่งแวดล้อม 1 นาทีที่แล้ว
PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ ปัจจัยในการก่อให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย (AMD) 1 นาทีที่แล้ว

อ่านบทความทั้งหมด

เกี่ยวกับคณะเภสัชศาสตร์
คลังความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด
ประดิษฐ์ หุตางกูร
คณบดีท่านแรกของคณะเภสัชศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

447 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
Copyright © 2021 - 2025
งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
การใช้และการจัดการคุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา