Loading…

สุขภาพลำไส้ดี เริ่มที่รู้จักสี่ไบโอติกสำคัญ

สุขภาพลำไส้ดี เริ่มที่รู้จักสี่ไบโอติกสำคัญ

รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.จิราพร เลื่อนผลเจริญชัย

ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

37 ครั้ง เมื่อ 2 ช.ม.ที่แล้ว
2025-05-25

Reference: BURNS TRAUMA, Volume 11, , 2023, tkad022, https://doi.org/10.1093/burnst/tkad02

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา งานวิจัยทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพได้ให้ความสำคัญกับ "ไมโครไบโอมในลำไส้" (gut microbiome) ซึ่งหมายถึงกลุ่มจุลินทรีย์หลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ ปัจจุบันพบว่าจุลินทรีย์เหล่านี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับกระบวนการย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การสังเคราะห์วิตามิน ตลอดจนการส่งสัญญาณที่ส่งผลต่อสมองและอารมณ์

จุลินทรีย์ในลำไส้จะมีทั้งชนิดที่เป็นประโยชน์ (probiotic bacteria) และชนิดที่อาจก่อโรค หากระบบนิเวศของลำไส้เกิดความไม่สมดุล เช่น จากการรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง การใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยครั้ง หรือความเครียดเรื้อรัง จะทำให้จุลินทรีย์ชนิดไม่ดีเพิ่มจำนวน ส่งผลให้เกิดภาวะลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS) ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) เพิ่มขึ้น

เพื่อส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินอาหารและสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ การบริโภคสารอาหารประเภท “ไบโอติก” (biotics) จึงเป็นหนึ่งในแนวทางที่ได้รับการยอมรับในแวดวงวิทยาศาสตร์ โดยสามารถแบ่งไบโอติกออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ โพรไบโอติก (probiotics) พรีไบโอติก (prebiotics) ซินไบโอติก (synbiotics) และโพสต์ไบโอติก (postbiotics)

1. โพรไบโอติก (probiotics)

โพรไบโอติก หมายถึงจุลินทรีย์มีชีวิต ซึ่งเมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม จะส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร ตามนิยามขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) แบคทีเรียที่จัดเป็นโพรไบโอติกที่ได้รับการศึกษาอย่างแพร่หลาย ได้แก่ 

  • Lactobacillus spp.: L. bulgaricus, L. acidophilus, L. plantarum, L. kefiranofaciens, L. rhamnosus, L. casei, L. rhamnosus
  • Bifidobacterium spp.: B. bifidum, B. lactis
  • Saccharomyces spp.: S. boulardii, S. kefir

จุลินทรีย์โพรไบโอติกสามารถลดการอักเสบของลำไส้ กระตุ้นการสร้างเมือกในเยื่อบุลำไส้ และแข่งขันกับเชื้อก่อโรคเพื่อป้องกันการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่สนับสนุนว่าโพรไบโอติกสามารถช่วยลดความรุนแรงของภาวะลำไส้แปรปรวน (IBS) ท้องเสียจากการใช้ยาปฏิชีวนะ และอาการภูมิแพ้บางประเภทได้อีกด้วย แหล่งอาหารที่ให้โพรไบโอติกตามธรรมชาติ ได้แก่ โยเกิร์ต (yogurt) กิมจิ (kimchi) มิโสะ (miso) คีเฟอร์ (kefir) และผลิตภัณฑ์นมหมักต่าง ๆ โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่ามี “จุลินทรีย์มีชีวิต” หรือ “live active cultures”

2. พรีไบโอติก (prebiotics)

พรีไบโอติก คือสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ในลำไส้เล็ก แต่จะถูกย่อยโดยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ใหญ่ ส่งผลให้จุลินทรีย์เหล่านี้สามารถเจริญเติบโตและทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างของพรีไบโอติก ได้แก่ อินนูลิน (inulin) ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (fructo-oligosaccharides: FOS) และกาแลคโตโอลิโกแซคกาไรด์ (galacto-oligosaccharides: GOS)

การบริโภคพรีไบโอติกอย่างเพียงพอสามารถเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ เช่น Bifidobacterium และ Lactobacillus ในลำไส้ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการผลิตกรดไขมันสายสั้น (short-chain fatty acids: SCFAs) อย่างบิวทิเรต (butyrate) ซึ่งมีผลต่อการลดการอักเสบและปกป้องเซลล์บุผิวลำไส้

แหล่งอาหารที่มีพรีไบโอติก ได้แก่ กล้วย (โดยเฉพาะกล้วยดิบ) กระเทียม หัวหอม หน่อไม้ฝรั่ง รากชิคอรี่ ข้าวโอ๊ต และธัญพืชไม่ขัดสี โดยควรรับประทานในรูปแบบที่ไม่ผ่านการปรุงด้วยความร้อนสูง เพื่อคงปริมาณพรีไบโอติกไว้ให้มากที่สุด

3. ซินไบโอติก (synbiotics)

ซินไบโอติก หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยโพรไบโอติกและพรีไบโอติกในสูตรเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการอยู่รอดและการทำงานของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซินไบโอติกสามารถพบได้ทั้งในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและในอาหารฟังก์ชันบางประเภท เช่น โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ B. lactis และเติม FOS เครื่องดื่มนมเปรี้ยวที่มี L. casei พร้อม GOS แคปซูลที่ประกอบด้วย L. rhamnosus GGร่วมกับอินนูลิน หรือ ผงซองที่มี S. boulardii ผสมกับพรีไบโอติกแบบผง

การใช้ซินไบโอติกได้รับความสนใจในทางการแพทย์ เช่น การฟื้นฟูไมโครไบโอมหลังการใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาว การฟื้นตัวของผู้ป่วยหลังการผ่าตัดระบบทางเดินอาหาร และการบำบัดโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง โดยมีหลักฐานว่าการใช้ซินไบโอติกสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการดูแลสุขภาพลำไส้ได้มากกว่าใช้โพรไบโอติกหรือพรีไบโอติกเพียงอย่างเดียว

4. โพสต์ไบโอติก (postbiotics)

โพสต์ไบโอติก หมายถึงสารประกอบชีวภาพที่ได้จากกระบวนการหมักหรือการสลายตัวของจุลินทรีย์ เช่น กรดไขมันสายสั้น ตัวอย่างเช่น acetate, propionate, butyrate เปปไทด์ที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เอนไซม์ ตัวอย่างเช่น เบต้า-กาแลคโตซิเดส (beta-galactosidase) พอลิแซ็กคาไรด์ และสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด ตัวอย่างเช่น กรดฟีนอลิก (phenolic acid) แม้ว่าโพสต์ไบโอติกจะไม่ใช่จุลินทรีย์ที่มีชีวิตเหมือนโพรไบโอติก แต่ก็มีบทบาทสำคัญต่อการลดการอักเสบ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมการฟื้นฟูเยื่อบุผนังลำไส้

การบริโภคอาหารที่ผ่านการหมักอย่างเหมาะสม เช่น มิโสะ กิมจิ (หลังผ่านการปรุงร้อน) ซุปเต้าเจี้ยวซีอิ๊วหมักธรรมชาติ ชีสที่บ่มเป็นเวลานาน (aged cheese) ตัวอย่างเช่น พาร์มีซาน และผลิตภัณฑ์จากการหมักด้วยจุลินทรีย์เฉพาะทาง อาจให้โพสต์ไบโอติกในปริมาณที่มีผลดีต่อสุขภาพ แม้จะไม่มีจุลินทรีย์มีชีวิตหลงเหลืออยู่ก็ตาม

 

บทสรุป

จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่าการส่งเสริมสุขภาพลำไส้ผ่านการบริโภคไบโอติกทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ โพรไบโอติก พรีไบโอติก ซินไบโอติก และโพสต์ไบโอติก เป็นแนวทางที่มีศักยภาพสูงในการปรับสมดุลจุลชีพในลำไส้ (gut microbiota homeostasis) ลดการอักเสบเรื้อรัง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และสนับสนุนสุขภาพโดยรวมในระยะยาว ทั้งนี้ การเลือกบริโภคอาหารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีคุณภาพดี และในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงการบริโภคอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของไบโอติกแต่ละประเภทในการส่งเสริมสุขภาพ

แหล่งอ้างอิง/ที่มา
  1. Wu Y, Li Y, Zheng Q, Li L. The efficacy of probiotics, prebiotics, synbiotics, and fecal microbiota transplantation in irritable bowel syndrome: a systematic review and network meta-analysis. Nutrients. 2024;16(13):2114.
  2. Yoo S, Jung S-C, Kwak K, Kim J-S. The role of prebiotics in modulating gut microbiota: implications for human health. Int J Mol Sci. 2024;25(9): 4834.
  3. Lee DH, Seong H, Chang D, Gupta VK, Kim J, Cheon S, et al. Evaluating the prebiotic effect of oligosaccharides on gut microbiome wellness using in vitro fecal fermentation. NPJ Sci Food. 2023;7(1):18.
  4. Cosier DJ, Lambert K, Neale EP, Probst Y, Charlton K. The effect of oral synbiotics on the gut microbiota and inflammatory biomarkers in healthy adults: a systematic review and meta-analysis. Nutr Rev. 2025;83(2):e4-24.
  5. Martyniak A, Wójcicka M, Rogatko I, Piskorz, T, Tomasik PJ. A comprehensive review of the usefulness of prebiotics, probiotics, and postbiotics in the diagnosis and treatment of small intestine bacterial overgrowth. Microorganisms. 2025;13(1): 57.
  6. Ji J, Jin W, Liu SJ, Jiao Z, Li X. Probiotics, prebiotics, and postbiotics in health and disease. MedComm (2020). 2023;4(6):e420.
  7. Markowiak P, Śliżewska K. Effects of probiotics, prebiotics, and synbiotics on human health. Nutrients. 2017;9(9),1021.
  8. Lou X, Xue J, Shao R, Mo C, Wang F, Chen G. Postbiotics as potential new therapeutic agents for sepsis. Burns Trauma. 2023:11;tkad022.
เกี่ยวกับคณะเภสัชศาสตร์
คลังความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด
ประดิษฐ์ หุตางกูร
คณบดีท่านแรกของคณะเภสัชศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

447 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
Copyright © 2021 - 2025
งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
การใช้และการจัดการคุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา