รู้จัก “แอนแทรกซ์” (Anthrax): โรคติดเชื้อร้ายแรงจากเชื้อ Bacillus anthracis
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ผกากรอง วนไพศาล ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล |
|
3,266 ครั้ง เมื่อ 9 นาทีที่แล้ว | |
2025-05-01 |
แอนแทรกซ์ (Anthrax) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียชื่อว่า Bacillus anthracisซึ่งพบได้ในดิน โดยทั่วไปมักก่อให้เกิดโรคในสัตว์กินพืช เช่น วัว ควาย แพะ แกะ และอูฐ โรคนี้สามารถแพร่มาสู่คนได้ ไม่ติดต่อจากคนสู่คน
Bacillus anthracis เป็นแบคทีเรียแกรมบวก (Gram-positive) รูปร่างแท่ง มีความสามารถพิเศษในการสร้าง “สปอร์” ซึ่งเป็นรูปแบบที่เชื้ออยู่รอดได้ยาวนานแม้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความร้อน แสงแดด ความแห้ง หรือสารเคมีบางชนิด สปอร์สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานนับสิบปี ในดินหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ติดเชื้อ สาสามารถใช้ความร้อนทำลายเชื้อได้เฉพาะเมื่ออยู่ในรูปแบบของแบคทีเรียปกติ แต่หากเป็น “สปอร์” ต้องใช้ความร้อนสูง เช่น การนึ่งที่อุณหภูมิ 121°C นาน 15–20 นาที (autoclaving) การต้มด้วยน้ำเดือดอาจไม่สามารถทำลายสปอร์ได้หมด เนื่องจากสปอร์ของ Bacillus anthracis มีความคงทนสูงและสามารถฟุ้งกระจายได้ง่ายในอากาศ ทำให้ แอนแทรกซ์ถูกนำไปใช้เป็นอาวุธชีวภาพ โดยได้รับการจัดอันดับเป็น "อาวุธชีวภาพกลุ่ม A" โดย Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ของสหรัฐอเมริกา
เมื่อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อจะเปลี่ยนจากสปอร์เป็นแบคทีเรียที่สามารถเพิ่มจำนวนและผลิตสารพิษ (toxins) ที่ร้ายแรง ได้แก่ lethal toxin และ edema toxin ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง ความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต และอวัยวะล้มเหลว
มนุษย์สามารถติดเชื้อ Bacillus anthracis ได้ 3 ทางหลัก ได้แก่:
แอนแทรกซ์ชนิดนี้พบได้บ่อยที่สุด เกิดขึ้นเมื่อสปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์เข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังเมื่อผิวหนังมีบาดแผลหรือรอยขีดข่วนและสัมผัสกับสปอร์ เช่น จากการชำแหละสัตว์ โดยอาการของโรคจะเริ่มแสดงหลังได้รับเชื้อภายใน 1 ถึง 7 วัน แอนแทรกซ์ที่ผิวหนังจะส่งผลต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ จุดที่ติดเชื้อ ลักษณะเด่น คือ เกิดกลุ่มของตุ่มน้ำหรือผื่นนูนขนาดเล็กที่อาจมีอาการคัน มีอาการบวมมากบริเวณรอบแผล เกิดแผลเปื่อยบนผิวหนังไม่มีอาการเจ็บ โดยมีตรงกลางเป็นสีดำ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากมีตุ่มน้ำหรือผื่นนูน โดยทั่วไปแผลมักปรากฏบนใบหน้า ลำคอ แขน หรือมือ
หากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยแอนแทรกซ์ชนิดผิวหนังอาจเสียชีวิตได้ถึง 20% แต่หากได้รับยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดสามารถหายจากโรคนี้ได้
แอนแทรกซ์ชนิดรุนแรงที่สุดนี้เกิดขึ้นเมื่อบุคคลสูดดมสปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์เข้าไป การติดเชื้อมักเกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ แต่ในบางรายอาจใช้เวลานานถึงสองเดือนกว่าจะมีอาการ ผู้ที่มีความเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่ทำงานในโรงงานผลิตผ้าขนสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ หรือโรงฟอกหนัง อาจสูดดมสปอร์จากสัตว์ที่ติดเชื้อหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ปนเปื้อนเข้าไปได้ขณะทำงาน
แอนแทรกซ์ทางเดินหายใจมีอาการเริ่มต้นจากต่อมน้ำเหลืองในทรวงอก ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีอาการไข้และหนาวสั่น รู้สึกไม่สบายบริเวณหน้าอก หายใจลำบาก สับสนหรือเวียนศีรษะ ไอ คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง ปวดศีรษะ เหงื่อออกมาก (มักเปียกชุ่ม) อ่อนเพลียอย่างรุนแรง และปวดเมื่อยตามร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการหายใจลำบากรุนแรงและภาวะช็อก
หากไม่ได้รับการรักษา แอนแทรกซ์ทางเดินหายใจมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก อย่างไรก็ตามหากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ประมาณ 55% ของผู้ป่วยสามารถรอดชีวิตได้
แอนแทรกซ์ชนิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อบุคคลบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุกจากสัตว์ที่ติดเชื้อแอนแทรกซ์ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย สปอร์ของเชื้อสามารถส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารส่วนต้น ได้แก่ ลำคอและหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ ทำให้เกิดอาการหลากหลายชนิด อาการของโรคมักเริ่มแสดงภายใน 1 ถึง 7 วันหลังได้รับเชื้อ ผู้ป่วยอาจมีอาการไข้และหนาวสั่น บวมที่ลำคอหรือต่อมน้ำเหลือง เจ็บคอ กลืนอาหารหรือเหลวได้เจ็บ เสียงแหบ คลื่นไส้และอาเจียน โดยเฉพาะอาเจียนที่มีเลือด ท้องเสียหรือท้องเสียมีเลือด ปวดศีรษะ หน้าแดงและตาแดง ปวดท้อง เป็นลม และท้องบวมท้องปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย อุจจาระปนเลือด
หากไม่ได้รับการรักษา มากกว่าครึ่งของผู้ป่วยแอนแทรกซ์ชนิดนี้จะเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยประมาณ 60% สามารถรอดชีวิตได้
การใช้ยาปฏิชีวนะ
การติดเชื้อแอนแทรกซ์ทุกรูปแบบสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะสามารถใช้เพื่อการรักษา และการป้องกันภายหลังการสัมผัส (post-exposure prophylaxis; PEP) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแอนแทรกซ์ในผู้ที่ได้รับการสัมผัสเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการ โดยยาปฏิชีวนะที่ใช้บ่อยเพื่อป้องกันและรักษาการติดเชื้อแอนแทรกซ์ ได้แก่: Ciprofloxacin และ Doxycycline ยาปฏิชีวนะทั้งสองชนิดนี้สามารถปกป้องร่างกายจากแอนแทรกซ์ได้เท่ากัน
เนื่องจากสปอร์ของแอนแทรกซ์ต้องใช้เวลาประมาณ 1-7 วันในการกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อ แต่สปอร์บางส่วนอาจอยู่ในระยะพักได้นานถึง 60 วันหรือมากกว่านั้น ดังนั้นการป้องกันหลังการสัมผัสแอนแทรกซ์ จึงจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลา 60 วัน
การใช้แอนติบอดี
Raxibacumab (ABthrax) เป็นแอนติบอดีโมโนโคลนอลมนุษย์ชนิด IgG1 ที่มีเป้าหมายจำเพาะต่อ protective antigen (PA) ของ Bacillus anthracis ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของสารพิษแอนแทรกซ์ (anthrax toxin) โดย PA ทำหน้าที่เป็นตัวนำพาให้สารพิษเข้าไปในเซลล์ของร่างกาย Raxibacumab จะจับกับ PA และยับยั้งไม่ให้สารพิษเข้าสู่เซลล์ ช่วยป้องกันความเสียหายต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ
Raxibacumab ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการรักษาและป้องกันแอนแทรกซ์ชนิดสูดดม (inhalational anthrax) โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางชีวภาพ เช่น การก่อการร้ายทางชีวภาพ ยานี้สามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา โดยยานี้จะลดพิษจากเชื้อ ขณะที่ยาปฏิชีวนะจะจัดการกับตัวเชื้อแบคทีเรียโดยตรง
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติการใช้ Raxibacumab เมื่อปี 2012 ภายใต้โครงการสนับสนุนมาตรการตอบโต้ภัยชีวภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ (Project BioShield) เพื่อรองรับกรณีเกิดการแพร่ระบาดหรือการก่อการร้ายทางชีวภาพ
การป้องกัน
การป้องกันโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) สามารถทำได้หลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นการป้องกันเบื้องต้น การป้องกันสำหรับกลุ่มเสี่ยง และการรับมือในภาวะฉุกเฉิน ดังนี้:
1. วัคซีนป้องกันแอนแทรกซ์ (Anthrax Vaccine Adsorbed: AVA)
2. การป้องกันสำหรับผู้มีความเสี่ยงจากการทำงาน
3. การป้องกันผ่านอาหาร
4. การให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันหลังสัมผัสเชื้อ (Post-Exposure Prophylaxis: PEP)
5. สุขอนามัยและการควบคุมการแพร่กระจาย
![]() |
รู้เท่าทันโรคไทรอยด์ต่ำ: สาเหตุ อาการ และการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี 5 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
ฝีดาษลิง (Monkeypox)....รู้ไว้ไม่ตระหนก 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยารักษาสิว isotretinoin อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
โควิด-19 กับ ภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาเขียว ยาไทยใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก… 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
พลาสติกแบบไหนที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ 2 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาทาภายนอกรักษาโรคเชื้อรา : ยารักษากลากและเกลื้อน 2 นาทีที่แล้ว |
![]() |
เมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน ... รับมือได้อย่างไร 2 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 2 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาแก้ไอ ... มีกี่แบบ ?? 2 นาทีที่แล้ว |
![]() ![]() |
|
ที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานภายในคณะฯ
HTML5 Bootstrap Font Awesome