ช็อกโกแลต จากโกโก้สู่สัญลักษณ์ในวันวาเลนไทน์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ผกากรอง วนไพศาล ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
|
543 ครั้ง เมื่อ 12 ช.ม.ที่แล้ว | |
2025-02-14 |
ช็อกโกแลตเป็นของหวานที่หลายคนรู้จักและชื่นชอบทั่วโลก โดยเฉพาะในวันวาเลนไทน์ที่ช็อกโกแลตกลายเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความรักและความห่วงใย การมอบช็อกโกแลตในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การให้ขนมหวาน แต่ยังสะท้อนถึงความหมายที่มาจากกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน เริ่มต้นจากเมล็ดโกโก้ (Theobroma cacao) ที่ ผ่านกระบวนการหมักบ่มและการแปรรูปอย่างมีขั้นตอน ก่อนจะกลายเป็นช็อกโกแลตที่เต็มไปด้วยรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์
ประวัติของช็อกโกแลตและการมอบช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์
ช็อกโกแลตมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย้อนกลับไปถึงอารยธรรมมายาและแอซเท็กในทวีปอเมริกาได้ ใช้เมล็ดโกโก้ในการทำเครื่องดื่มที่มีรสขมและใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและการแลกเปลี่ยนสินค้า ต่อมาในศตวรรษที่ 16 เมื่อชาวสเปนค้นพบเมล็ดโกโก้จึงนำกลับไปยังยุโรปและเริ่มพัฒนาเป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่มีรสหวานขึ้นโดยการเติมน้ำตาลและวานิลลาทำให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ราชวงศ์และชนชั้นสูงของยุโรป ในศตวรรษที่ 19 มีการประดิษฐ์เครื่องบดโกโก้ที่ช่วยให้สามารถผลิตช็อกโกแลตในรูปแบบก้อนหรือแผ่นได้ กระบวนการผลิตช็อกโกแลตในเชิงพาณิชย์จึงเริ่มต้นขึ้นและได้รับความนิยมและเข้าถึงผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย การมอบช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มีต้นกำเนิดจากยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 19 เช่นกัน โดยทายาทผู้ผลิตช็อกโกแลต Richard Cadbury จากบริษัท Cadbury ได้สร้างสรรค์ช็อกโกแลตและออกแบบบรรจุภัณฑ์รูปหัวใจ ดอกกุหลาบ และคิวปิดที่หรูหรา ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของขวัญแทนความรักในวันวาเลนไทน์ และยังคงเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน
กระบวนการผลิตช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตมีต้นกำเนิดมาจากเมล็ดโกโก้แต่มีความแตกต่างจากโกโก้ในด้านการแปรรูปและองค์ประกอบ โดยก่อนที่จะเป็นช็อกโกแลตนั้นจะต้องผ่านหลายกระบวนการ ดังนี้
ขั้นตอนการผลิตโกโก้เริ่มจากการนำเมล็ดที่อยู่ในผลโกโก้ไปหมัก กระบวนการหมักจะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ซึ่งระหว่างนี้จุลินทรีย์ต่างๆ จะเริ่มทำงาน โดยการย่อยสลายเนื้อเยื่อสีขาวที่หุ้มเมล็ด การหมักนี้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและช่วยลดความขมในรสชาติของเมล็ดโกโก้ การหมักแบ่งออกเป็น 2 กระบวนการหลักๆ ได้แก่ การหมักแอลกอฮอล์ (Alcohol fermentation) และ การหมักกรดอะซิติก (Acetic acid fermentation)
กระบวนการนี้เกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อสีขาวที่หวานซึ่งห่อห่อหุ้มเมล็ดโกโก้ไว้ถูกย่อยสลายด้วยยีสต์ (yeast) ซึ่งทำการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลในเนื้อเยื่อสีขาวเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กระบวนการนี้มักใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน
หลังจากยีสต์ผลิตแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์จะถูกแบคทีเรียกลุ่ม Acetobacter เปลี่ยนให้เป็นกรดอะซิติก (Acetic acid) ซึ่งเป็นกรดที่สำคัญในการสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของโกโก้กรดอะซิติกจะช่วยลดความขมและเพิ่มความซับซ้อนในรสชาติของโกโก้ ทำให้ช็อกโกแลตที่ผลิตออกมามีรสชาติและมีความหอม การหมักกรดอะซิติกจะเกิดขึ้นภายหลังจากการหมักแอลกอฮอล์และใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน
กระบวนการหมักบ่มส่งผลให้เกิดสารสำคัญหลายชนิดที่มีบทบาทในการกำหนดรสชาติและกลิ่นของช็อกโกแลต ได้แก่:
หลังจากกระบวนการหมักเสร็จสิ้น เมล็ดโกโก้จะถูกนำไปตากแดดให้แห้งเพื่อหยุดกระบวนการหมักและทำให้เมล็ดคงตัว ช่วยลดความชื้นในเมล็ดทำให้เมล็ดโกโก้สามารถเก็บรักษาได้ยาวนานขึ้น
เมล็ดโกโก้ที่แห้งแล้วจะผ่านการคัดแยกคุณภาพก่อนจะนำไปผลิตเป็นโกโก้นิปส์ (Cocoa Nibs) ซึ่งเป็นส่วนของเมล็ดโกโก้ที่ผ่านการคั่วและกะเทาะเปลือกออกแล้ว และเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตช็อกโกแลต โกโก้นิปส์มีรสชาติเข้มข้น มีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โพลีฟีนอล และไขมันธรรมชาติที่ช่วยสร้างรสชาติและเนื้อสัมผัสของช็อกโกแลตคุณภาพสูง หากนำไปบดจะได้เป็นโกโก้แมส (cocoa mass) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหลักของช็อกโกแลตแท้ หรือหากนำโกโก้นิปส์ไปสกัดน้ำมันออกจะได้ผลิตภัณฑ์เป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนของเนยโกโก้ (cocoa butter) และส่วนผงโกโก้ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือหลังจากการสกัดเนยโกโก้ออกไปแล้ว และมักใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และของหวาน
ช็อกโกแลตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำโกโก้แมส หรือนำผงโกโก้ไปผสมกับเนยโกโก้ (cocoa butter) ร่วมกับสารให้ความหวาน เช่น น้ำตาล หรือสารปรุงแต่งอื่นๆ ช็อกโกแลตมีหลายประเภทซึ่งแตกต่างกันตามปริมาณของโกโก้และส่วนผสมที่ใช้ ตัวอย่างเช่น
ประโยชน์ของช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตโดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้เข้มข้น มีสารสำคัญหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากฟลาโวนอลและโพลีฟีนอลแล้ว ยังมีสารสำคัญอื่นๆ ที่ช่วยเสริมประโยชน์ของช็อกโกแลต ได้แก่
การผลิตช็อกโกแลตไม่เพียงแต่เป็นกระบวนการทางเคมีและเทคโนโลยีที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นศิลปะที่มีการผสมผสานระหว่างศาสตร์และความสร้างสรรค์เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ช็อกโกแลตจึงไม่ใช่แค่ขนมหวาน ช็อกโกแลตยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น การลดความดันโลหิต เสริมสุขภาพหัวใจ และเพิ่มพลังงาน จากกระบวนการผลิตและคุณค่าทางโภชนาการช็อกโกแลตจึงเป็นทั้งของขวัญและขนมหวานที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจในเวลาเดียวกัน
![]() |
แตงโม....ผลไม้คลายร้อน 1 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
บรรจุภัณฑ์บ่งชี้ร่องรอยการแกะ (Tamper-Evident Packaging) : ตอนที่ 1 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาลดไขมันในเลือด 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
วัคซีนโควิด-19 ให้ประสิทธิผลในการป้องกันโรคเพียงใด? 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาเขียว ยาไทยใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก… 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ผลเสียจากการใช้ยาระบายเพื่อควบคุมน้ำหนัก 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
การใช้ยาที่มีความเสี่ยงต่อความพิการรุนแรงของทารกในครรภ์ 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ผลเสียของการไม่บริโภคอาหารคาร์โบไฮเดรต 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ไอโอดีน, เบตาดีน ป้องกันสารกัมมันตรังสีได้จริงหรือ 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
“ตดหมูตดหมา” เพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้จริงหรือ? 1 นาทีที่แล้ว |
![]() ![]() |
|
ที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานภายในคณะฯ
HTML5 Bootstrap Font Awesome