Eng |
อาจารย์.ดร.ภญ. บุญธิดา มระกูล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เครื่องสำอาง ตามความหมายในพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 หมายความถึง
(๑) วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทําด้วยวิธีอื่นใดกับส่วนภายนอกของร่างกายมนุษย์ และให้หมายความรวมถึงการใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือเปล่ยนแปลงลักษณะที่ปรากฏ หรือระงับกลิ่นกายหรือปกป้องดูแลส่วนต่างๆ นั้น ให้อยู่ในสภาพดี และรวมตลอดทั้งเครื่องประทิ่นต่างๆ สําหรับผิวด้วย แต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย
(๒) วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสําอางโดยเฉพาะ หรือ
(๓) วัตถุอื่นที่กําหนดโดยกฎกระทรวงให้เป็นเครื่องสําอาง
ฉลากเครื่องสำอางจะต้องเขียนด้วยข้อความที่ตรงต่อความจริง ใช้ข้อความภาษาไทยและมีข้อความที่อ่านได้ชัดเจน โดยบนฉลากเครื่องสำอางจะต้องระบุข้อความที่สำคัญได้แก่ ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า ประเภทของเครื่องสำอาง ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต (กรณีที่ผลิตในประเทศ) ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า และชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต (กรณีเป็นเครื่องสำอางนำเข้า) ปริมาณสุทธิ วิธีใช้ ข้อแนะนำ คำเตือน เดือน/ปีที่ผลิตและที่หมดอายุ (กรณีเครื่องสำอางมีอายุการใช้งานต่ำกว่า 30 เดือน) เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต เลขที่ใบรับแจ้ง และชื่อสารทุกชนิดที่เป็นส่วนผสมเครื่องสำอาง (เรียงจากมากไปหาน้อย) รวมถึงข้อความอื่นใดเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค
ทั้งนี้เราอาจเคยพบสัญลักษณ์ต่างๆบนฉลากเครื่องสำอาง ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านั้นจะมีความสำคัญในการช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคมีประโยชน์ในการเลือกซื้อและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะแก่ความต้องการ สัญลักษณ์บนฉลากเครื่องสำอางที่เป็นสากลเหล่านี้ ได้แก่