แพ้ยา ป้องกันได้
นศภ. ดวงกมล กฤษณพิพัฒน์ นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
|
16,638 ครั้ง เมื่อ 1 วันที่แล้ว | |
2014-10-15 |
แพ้ยา คืออะไร ?
การแพ้ยาคือปฏิกิริยาที่ร่างกายตอบสนองต่อยาผ่านระบบภูมคุ้มกัน เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายจะเกิดการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างสารออกมาเพื่อทำลายสิ่งแปลกปลอมนั้น กระบวนการดังกล่าวทำให้เกิดอาการแพ้ในลักษณะต่าง ได้แก่ ผื่น ริมฝีปากบวม เปลือกตาบวม หรือในบางรายอาจมีการแพ้ที่รุนแรง เช่น เป็นผื่นที่มีลักษณะผิวหนังหลุดลอก ความดันโลหิตต่ำและหยุดหายใจ
แพ้ยาซ้ำเกิดขึ้นได้อย่างไร
ครั้งแรกที่ร่างกายได้รับยาจะเกิดการกระตุ้นเซลล์บางชนิดให้กลายเป็น memory cell เพื่อจดจำยาชนิดนั้นไว้ ดังนั้นเมื่อร่างกายได้รับยาชนิดนั้นในครั้งต่อมา ปฏิกิริยาตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจึงเกิดได้เร็วกว่าในครั้งแรก ทำให้อาการแพ้เกิดขึ้นหลังจากใช้ยาในทันที เป็นวัน หรืออาจเป็นสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับกลไกในการแพ้แต่ละชนิด โดยการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการแพ้ยาคือ ให้หยุดใช้ยานั้นทันที และ ห้ามใช้ยานั้นอีกต่อไป
ยาในกลุ่มเดียวกันจะมีโอกาสแพ้ด้วยหรือไม่
เนื่องจากโครงสร้างของยาที่ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้น (antigen) ทำให้เกิดการสร้างสารต่อต้านจากร่างกายอาจจะเป็นโครงสร้างส่วนใดส่วนหนึ่งของโมเลกุลยา ดังนั้นการแพ้ยาที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันจึงเกิดขึ้นได้ โดยเรียกการแพ้ยาที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกันในลักษณะนี้ว่า การแพ้ยาข้ามกัน (cross reactivity)
กลุ่มยาที่พบการแพ้ยาข้ามกันมากที่สุดได้แก่ ยาปฏิชีวนะในกลุ่มบีต้าแลคแตม (beta-lactams) ซัลโฟนาไมด์ (sulfonamides) ยาแก้ปวดหรือยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และกลุ่มยากันชักโดยยาที่มีโครงสร้างคล้ายกันอาจมีการแพ้ยาข้ามกันได้ แต่อย่างไรก็ตามการแพ้ยาข้ามกันบางกรณีไม่ได้เกิดจากปฏิกิริยาการแพ้แต่เป็นผลจากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของยาเอง เนื่องจากยาในกลุ่มเดียวกันมักจะมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาใกล้เคียงกัน โดยไม่ได้สัมพันธ์กับสูตรโครงสร้าง หากอาการเหล่านั้นเกิดจากผลข้างเคียงของยา ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดยาหรือห้ามใช้ยานั้น
แพ้ยาซ้ำ ป้องกันได้อย่างไร
สำหรับแนวทางปฏิบัติของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าแพ้ยา ผู้ป่วยจะได้รับบัตรแพ้ยาจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล ผู้ป่วยควรพกบัตรแพ้ยาติดตัวและแสดงบัตรแพ้ยาทุกครั้งเมื่อเข้ารับการตรวจรักษาหรือรับยา รวมทั้งมีข้อควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
ดังนั้นการได้รับการวินิจฉัย ประเมินอาการแพ้และการรักษาอย่างเหมาะสมสามารถช่วยป้องกันการแพ้ยาซ้ำและไม่ทำให้ผู้ป่วยเสียประโยชน์จากการพิจารณาใช้ยาในกลุ่มเดียวกัน
![]() |
ยารักษาโรคกระดูกพรุน ใช้อย่างไร? 33 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาเลื่อนประจำเดือน .. ที่นี่มีคำตอบ 37 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
เรื่องของยาลดความอ้วน orlistat 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาดมมีอันตรายหรือไม่ 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ชาร้อน ชาเย็น ประโยชน์/โทษ ต่อสุขภาพ 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
โรคมือเท้าปากในเด็ก 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
กวาวเครือขาว 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
โรคจีซิกพีดี...ยาและอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง 2 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยารักษาสิว isotretinoin อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม 2 นาทีที่แล้ว |
![]() |
เผลอลืมให้ยาสัตว์เลี้ยงไป...ควรทำอย่างไรดี 2 นาทีที่แล้ว |
![]() ![]() |
|
ที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานภายในคณะฯ
HTML5 Bootstrap Font Awesome