Loading…

ข้อควรระวัง การใช้มาสคาร่า และการต่อขนตาให้ยาวและหนาขึ้น

ข้อควรระวัง การใช้มาสคาร่า และการต่อขนตาให้ยาวและหนาขึ้น

รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

25,148 ครั้ง เมื่อ 6 ช.ม.ที่แล้ว
2014-07-27

มาสคาร่า เป็นเครื่องสำอางที่ช่วยเน้นให้ดวงตาคมและเข้มขึ้น ช่วยเพิ่มความหนาและความยาวให้ขนตาดูดกดำ บางครั้งก็สามารถใช้ตกแต่งขนคิ้วได้เช่นกัน มี

แหล่งอ้างอิง/ที่มา

การใช้มาสคาร่าจากสมัยอียิปต์โบราณ กรีกและชาวโรมัน ส่วนใหญ่ใช้กันมากในหมู่ดาราหนังที่มีการแสดงบนเวที ปัจจุบันเป็นความนิยมในสังคม ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงสาวใหญ่           สูตรตำรับของมาสคาร่า มีการพัฒนามาหลายยุคหลายสมัย ในอดีต (ค.ศ.1933) มีคนถึงขั้นตาบอดและถึงตายในที่สุดจากการใช้มาสคาร่าที่มีองค์ประกอบของสารเคมีที่รุนแรง ทำให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สหรัฐอเมริกาต้องเข้าควบคุมผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอางอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี ค.ศ.1938 เป็นต้นมา           ปัจจุบันมาสคาร่ามีพัฒนาการไปมากเพื่อให้สะดวกต่อผู้บริโภคในการใช้งาน องค์ประกอบหลักทางเคมีพื้นฐานที่คล้ายๆกันในหลายๆยี่ห้อคือ เม็ดสี น้ำมัน ไขหรือขี้ผึ้ง และสารกันเสีย รวมทั้งสารบำรุงเส้นขนให้แข็งแรง เช่น วิตามิน โปรตีน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสูตรตำรับชนิดที่กันน้ำและชนิดไม่กันน้ำ คุณสมบัติของมาสคาร่าที่ช่วยให้เส้นขนตายืดยาวขึ้นและหนาขึ้น โดยใช้องค์ประกอบทางเคมีของสารกลุ่มไนล่อนหรือไมโครไฟเบอร์พวกเส้นไหมเรย่อน และสารจำพวกแป้งเปียกเพื่อให้มาสคาร่าเหนียวข้น เส้นขนตาจะได้หนาขึ้น ข้อควรระวังและอาการข้างเคียงจากการใช้มาสคาร่า

  1. เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเห็นผลในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้มีการนำสารเคมีที่เป็นตัวยาในการรักษาโรคความดันตาสูงผิดปกติมาใส่ในมาสคาร่า ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจัดอยู่ในประเภท “ยา” ไม่ใช่เครื่องสำอาง การนำมาใช้เป็นมาสคาร่าในคนที่ไม่เป็นโรค ก่อให้เกิดอันตรายต่อเยื่อบุลูกตา สีม่านตาเปลี่ยน ตาบวมและอักเสบ และมีผลข้างเคียงต่อผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ตัวยาสำคัญชนิดนี้มีประสิทธิผลทำให้เส้นขนดกดำและหนาอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ดังนั้นหากมีโฆษณาชวนเชื่อเช่นนี้ขอให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงสินค้าดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สหรัฐอเมริกา ออกมาประกาศเตือนเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2011 ที่ผ่านไปถึงข้อห้ามการโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าว และให้ผู้บริโภคระวังสินค้าประเภทนี้
  2. แปรงปัดขนตา ควรเปลี่ยนทิ้งหลังการใช้งานนาน 4-6 เดือน และหากพบกลิ่นเปลี่ยนแปลง ควรทิ้งทันทีผลิตภัณฑ์ที่เหลือทันที เพราะองค์ประกอบทางเคมีของมาสคาร่าจะขึ้นเชื้อจุลินทรีย์ได้ง่าย หากใช้ต่อจะทำให้ตาอักเสบ คันและบวมเพราะติดเชื้อได้
  3. การต่อเส้นขนตา นอกจากมาสคาร่าแล้ว ยังมีการใช้ขนตาปลอมทำเป็นแผงโดยใช้เส้นใยไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์และใช้เทปกาวเพื่อแปะติดกับหนังตาบน อาการข้างเคียงที่พบทั่วไป ทำให้ขนตาธรรมชาติหลุดร่วงง่าย ในบางรายที่ใช้ขนตาปลอมติดเป็นประจำ ขนตาธรรมชาติหลุดร่วงไปหมดอย่างถาวรก็มี นอกจากนี้เทปกาวอาจทำให้หนังตาระคายเคืองและอักเสบได้หากใช้ไม่ถูกต้อง และบางรายอาจมีอาการระคายเคืองจากการแพ้เทปกาว
  4. ความเสี่ยงที่สำคัญจากการใช้มาสคาร่าคือ การปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์เข้าตาระหว่างการใช้งาน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงควรระมัดระวังหัวข้อต่อไปนี้:
  5. ห้ามใช้มาสคาร่าระหว่างการขับรถ หรือรถกำลังเคลื่อนที่
  6. ห้ามเติมน้ำหรือน้ำลายลงในมาสคาร่าที่แห้งหรือเริ่มแห้ง เพราะเป็นการเติมเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนลงในมาสคาร่า
  7. ห้ามใช้มาสคาร่าร่วมกับผู้อื่น
  8. ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากบ่งบอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์อินทรีย์ หรือ “organic” หรือ ประกอบด้วยสารจากธรรมชาติ 100% “all natural” ไม่ได้แปลว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ต่อผิวหนังเมื่อใช้งาน หรือไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติเป็น “hypoallergenic.”
  9. มาสคาร่า ที่มีฉลากบ่งบอกคุณสมบัติ "Hypoallergenic" หมายความถึงว่า
  10. โอกาสในเกิดอาการแพ้น้อย แต่ไม่ได้หมายถึงไม่เกิดอาการแพ้เลย
  11. เป็นไปได้ที่จะเกิดการอาการแพ้ต่อผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติรวมทั้งสารจากธรรมชาติ เช่น ลาโนลิน เป็นสารธรรมชาติสกัดจากขนแกะ และใช้กันมากในครีมบำรุงผิว แต่มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่มีอาการแพ้ทุกครั้งที่ใช้กับสารดังกล่าว ฯลฯ
  12. ให้จำไว้ว่า คำว่า “hypoallergenic” บนฉลากเครื่องสำอาง ไม่ได้รับรองว่าจะไม่เกิดอาการแพ้!
เกี่ยวกับคณะเภสัชศาสตร์
คลังความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด
ประดิษฐ์ หุตางกูร
คณบดีท่านแรกของคณะเภสัชศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

447 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
Copyright © 2021 - 2025
งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
การใช้และการจัดการคุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา